|
|
ใช้เบาะที่นอนที่มีแรงดันต่ำ เช่น ที่นอนฟองน้ำ ที่นอนที่ทำจากแผ่นโฟม เตียงน้ำ เตียงลม หรือเตียงที่บุด้วยเนื้อเจล ซึ่งช่วยลดแรงต้านเมื่อมีแรงกดทับจากการนอนหรือนั่ง |
|
|
ไม่ควรใช้ที่รองนั่งรูปแบบห่วงยาง เพราะจะไปลดการไหลเวียนของเลือดบริเวณผิวหนังในส่วนที่ถัดออกมาจากตรงกลางของห่วง เวลาคนนั่งจมลงไปกลางห่วง |
|
|
ควรขยับตัวเปลี่ยนท่านอนอย่างน้อยทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อลดแรงกดดันที่ผิวหนัง ไม่ให้ผิวสัมผัสต้องจมและเสียดสีอยู่กับที่ใดที่หนึ่งนานๆ |
|
|
หากเป็นไปได้ควรนอนในท่าที่ทำมุมประมาณ 30 องศากับพื้นที่นอน เพื่อหลีกเลี่ยงแรงเสียดสีบริเวณข้อเท้า ส้นเท้า สะโพก และหลังส่วนล่าง |
|
|
หากเป็นท่านั่ง อาจนั่งทำมุมเอียงๆ เล็กน้อยกับเก้าอี้ เพื่อลดแรงกดดันและเสียดสีบริเวณสะโพก |
|
|
การรับประทานอาหารที่ครบคุณค่า มีประโยชน์แก่ร่างกาย และดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ บ่อยๆ ต่อวัน เป็นวิธีการที่ช่วยให้แผลเยียวยาตัวเองได้ดียิ่งขึ้น |
|
|
หากบริเวณรอยแดงๆ ที่เป็นไม่ยอมหายไปสักทีแม้จะทำตามวิธีป้องกันแล้วก็ตาม หรือผู้ที่เป็นแผลเกิดมีไข้แผลเป็นสีแดงเข้มขึ้น
เกิดหนอง หรือน้ำเหลืองไหลออกมาจากแผล มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ มีอาการบวม และเจ็บปวดมากขึ้น อย่างหนึ่งอย่างใดเหล่านี้ให้รีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน เพราะอาจเป็นอาการของการติดเชื้อที่แผลได้ |
|
|
ในการดูแลคนที่เป็นแผลกดทับอย่างนี้ผู้ดูแลควรสวมถุงมืออนามัยที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคมาแล้วทุกครั้ง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียมาสู่แผลด้วย |