โรคนี้มักเกิดจาก การเสื่อมลงของร่างกายตามอายุ ทำให้เลนส์ตาที่ช่วยในการปรับภาพให้เห็นชัด มีลักษณะขุ่นขาวไป อย่างไรก็ตาม อาจเกิดจากโรคบางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน ดวงตาได้รับการกระทบกระแทก ถูกแสงแดดจัดเป็นประจำ หรือการใช้ยาบางชนิดเป็นเวลานาน เช่น ยาสเตียรอยด์
อาการของโรคต้อกระจก
ในระยะเริ่มแรก จะมีอาการตามัวเหมือนมีฝ้าบางๆ มาบังสายตา ตาจะค่อยๆ มัวมากขึ้นอย่างช้าๆ โดยไม่มีอาการปวดตา ในรายที่เป็นมาก อาจมองเห็นเลนส์ตาขุ่นขาว ในบางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้แก่ ต้อหิน และเลนส์แก้วตาหลุดได้
การรักษา
ถ้าต้อกระจกยังเป็นไม่มาก ไม่รบกวนการดำเนินชีวิตประจำวัน อาจไม่ต้องรักษาแต่ผู้ป่วยต้องมาพบแพทย์ เป็นระยะทุก 3-6 เดือน ในระยะที่เป็นไม่มาก บางรายอาจมองเห็นได้ดีขึ้น ถ้าใช้แว่นตัดแสงจ้าเปิดไฟให้สว่างขึ้น
หรือใช้แว่นขยายช่วย แต่ถ้าเลนส์ตาขุ่นมาก ทำให้มีปัญหา ในการประกอบกิจวัตรประจำวัน ควรได้รับการรักษา ด้วยการผ่าตัดเอาเลนส์ตาที่ขุ่นออก แล้วใส่เลนส์เทียม ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่มีความปลอดภัยสูง หลังผ่าตัด ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องนอนพักในโรงพยาบาล และสามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจน หลังผ่าตัดเพียงแค่ 2-3 วันเท่านั้น
การป้องกันโรคต้อกระจก
พยายามหลีกเลี่ยงการถูกแดดจัด หรือสวมแว่นกันแดดถ้าต้องออกแดด ไม่สูบบุหรี่ รับประทานอาหาร
ให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักใบเขียว นอกจากนั้นผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจสายตาเป็นระยะ เช่น ตรวจทุก 2 ปี ในรายที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง ที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาต่อการมองเห็น เช่น โรคเบาหวาน สมควรได้รับการตรวจตาทุก 6-12 เดือน
นพ.วีรศักดิ์ เมืองไพศาล
|