หน้าแรก
ข้อมูลสุขภาพ
เว็บ สุขภาพ
ร้านอาหาร เพื่อสุขภาพ
เว็บ โรงพยาบาล
อาการแรกเริ่มของสมองเสื่อม
ข้อมูลสุขภาพ
สุขภาพใจ สุขภาพจิต
โรคหัวใจ
โรคมะเร็ง
เบาหวาน
โคเลสเตอรอล
ไต
สุภาพสตรี
ผู้สูงอายุ
กระดูกและข้อ
ฟัน
โรคอ้วน
เฉพาะด้านอื่นๆ
สารอาหาร
ทั่วไป
 

แหม หมู่นี้ลืมอยู่เรื่อยๆ เมื่อเช้ารีบแทบตาย เพราะมัวแต่เสียเวลาหากุญแจรถตั้งนาน ไม่รู้ว่าไปวางไว้ที่ไหน กว่าจะพบเล่นเอา หงุดหงิด แล้วเลยพาลลืมเอกสารที่จะต้อง เอามาจากบ้านด้วย แถมวันก่อนขับรถไปห้างสรรพสินค้า พอกลับออกมา ก็หารถไม่เจอ ไม่รู้ว่าจอดไว้ที่ชั้นไหน อายยามจะแย่แล้ว นี่ไม่นับเรื่องทำเปิ่น ไปตั้งชื่อน้องชายพี่สุภาพให้เขาใหม่ เพราะจำไม่ได้ว่าเขาชื่ออะไร... เอ! เราจะเป็นสมองเสื่อมหรือเปล่านะ ? อย่างนี้ต้องไปถามคุณหมอ ให้แจ่มแจ้งว่าอาการทั้งหลายนี้ เข้าข่ายเริ่มต้นของอาการ สมองเสื่อมใช่ไหม ?....

ใครที่มีอาการแบบที่เล่ามานั้น น่าจะพอสบายใจได้ว่า คุณยังไม่เข้าข่ายว่า เป็นสมองเสื่อมหรอกค่ะ คนธรรมดาก็อาจจะลืม ไม่ทราบว่าวางของไว้ที่ไหน แต่จะรู้ตัวว่าของนั้นหายไป และเริ่มตามหาย้อนทางจนพบของที่หาย ส่วนมากที่ลืมนั้นเพราะรีบร้อน คุณอาจจะทำกิจกรรมหลายอย่างพร้อมกัน ทำให้ไม่ได้ตั้งสติจดจำไว้ว่า วางกุญแจไว้ที่ไหน เรื่องจอดรถก็เหมือนกันค่ะ ลองนึกดูดีๆ ส่วนมากเป็นเพราะตอนจอด ใจคุณจดจ่อกับเรื่องอื่น เช่น กำลังคุยโทรศัพท์ หรือคุยกับคนข้างๆ ติดพัน หรือรีบร้อนกลัวจะไปดูหนังไม่ทัน เมื่อเดินออกจากรถ จึงไม่ได้จำว่าจอดชั้นไหน เวลากลับมาเอารถจึงนึกไม่ออกค่ะ

หากเป็นคนที่สมองเสื่อม จะต้องมีปัญหาเรื่องความจำเสื่อม ร่วมกับความสามารถของสมองส่วนอื่นๆ เสื่อมไปด้วย อาการที่พบในช่วงแรก ได้แก่

 
•
เล่าเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก ส่วนมากจะเป็นเรื่องของตนเอง หรือเรื่องในครอบครัวเล่าให้คนเดิมๆ ฟัง เพราะจำไม่ได้ว่าเคยเล่าแล้ว อาจถามคำถามแบบเดิมซ้ำกับคู่สนทนาคนเดิม
 
•
หาของใช้ในบ้านไม่พบทั้งที่มีที่เก็บประจำ หรือเก็บของผิดที่ เอาไปไว้ในสถานที่แปลกๆ แบบคาดไม่ถึง เช่น เอา กุญแจบ้านไปใส่ไว้ในตู้เย็น เอานาฬิกาไว้ในขวดน้ำตาลทราย หรือเก็บกางเกงชั้นในไว้ในตู้เก็บรองเท้า เป็นต้น
 
•
ลืมสิ่งที่เคยเรียนรู้ ความสามารถที่ทำได้ในช่วงหลังๆ และปฏิเสธว่าไม่เคยทำ ไม่รู้เรื่อง เช่น เรียนรู้เรื่องคอมพิวเตอร์จนใช้เครื่องเป็น เล่นอินเตอร์เน็ตได้ แชทกับหลานปู่ที่เมืองนอกได้ แต่ต่อมาเริ่มสับสนทำไม่ค่อยถูก ไปๆ มาๆ ไม่แตะคอมพิวเตอร์อีกเลย พอมีคนถามว่าตอนนี้ไม่แชท กับหลานแล้วหรือ ก็อาจกลบเกลื่อนว่าไม่ว่าง แต่จะสังเกตได้ว่าคนนั้นใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็นแล้ว หรืออยู่มาวันหนึ่ง ก็ส่งแฟกซ์หรือถ่ายเอกสารไม่เป็น ไม่ทราบว่าจะต้องทำขั้นตอนอย่างไรบ้าง
 
•
ขาดไหวพริบ แก้ปัญหาไม่ได้ทั้งที่เป็นเรื่องไม่ยากนัก เช่น ลูกออกจากบ้านไป (คิดว่าจะไปไม่นาน) แล้วล็อกประตูหน้าบ้านจากข้างนอก คุณแม่ที่อยู่ในบ้านก็พยายามเขย่า ดัน และทำท่าจะพังประตูบ้านออกมาให้ได้ ทั้งที่หากเดินออกทางประตูอื่นที่อยู่ไม่ไกลกัน ก็จะถึงประตูที่ล็อกอยู่ หรือนั่งดูปล่อยให้ฝนสาดเข้ามาในห้อง โดยไม่ทำอะไรเลย
 
•
งานที่เคยทำเดิมๆ ก็เริ่มมีปัญหา เช่น ทำกับข้าวแต่ไม่ทราบว่า ต้องใส่อะไรก่อนหลัง ตำน้ำพริกแกงไม่ถูก ใส่เครื่องปรุงไม่ครบ ทำกับข้าวรสชาติเพี้ยนไป กวาดบ้านแล้วเอาขยะไปซุกไว้ที่มุมห้อง ซักผ้าไม่ใส่ผงซักฟอก ซักทีเดียวแล้วเอาขึ้นตาก ใส่กางเกงกลับหน้ากลับหลัง เปิดทีวีไม่ได้ ใช้รีโมทไม่เป็น ไม่รู้ว่ารีโมทเอาไว้ทำอะไร เป็นต้น
 
•
หมดความคิดริเริ่ม ไม่ทำอะไรทั้งนั้น นั่งเฉยๆ อยู่ทั้งวัน รวมทั้งแยกตัวไม่เข้าสังคม ชวนไปไหนก็ปฏิเสธ
 
•
เรียกของกินของใช้ไม่ถูก เรียกทีวีว่าตู้ฉายหนัง จะเอากล้องถ่ายรูปโพลารอยด์ ก็บอกว่าจะเอากล่องที่มีกระดาษออกมา
 
•
อารมณ์แปรปรวนโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน โกรธกราดเกรี้ยวรุนแรงในเรื่องเล็กน้อย หรือเฉยเมยไม่สนใจสิ่งแวดล้อม เวลาโกรธอาจพูดจาหยาบคายมากๆ แบบคาดไม่ถึง หรืออาจมีปฏิกิริยาทำร้ายร่างกาย ทุบตี หรือกัดคนอื่น
 
•
ไม่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของคนอื่น หรือสถานการณ์ รอบตัวขณะนั้น รถติดไฟแดงก็ไม่เข้าใจว่าจะต้องจอด เร่งให้ไป ตามใจตน อยากได้อะไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น รอไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องนั่งรอ
 
•
เสียความจำในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่นาน ทั้งที่เหตุการณ์นั้นใช้เวลานานและไม่น่าลืมได้ เช่น ลืมว่าเดินทางไปต่างจังหวัดหรือ ต่างประเทศ ลืมว่าไปงานแต่งงานของหลาน จำไม่ได้ว่าหลานแต่งงานแล้ว ไปธนาคารเบิกเงินมาแล้วก็จำไม่ได้บอกว่าไม่ได้ไป ในคนที่สมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป แต่อาจพบกะทันหัน ในคนที่สมองเสื่อม จากปัญหาหลอดเลือดแดงในสมอง และทุกคนไม่จำเป็นต้องมีอาการทุกอย่าง อาจมีเฉพาะบางอาการก็ได้ และจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ บางทีดูเหมือนคงที่อยู่สักระยะหนึ่ง แต่มักจะเลวลงต่อไป

ปัญหาการลืมอะไรเล็กๆ น้อยๆ อย่างที่เล่าในตอนต้นนั้น เป็นเรื่องที่พบได้ในคนปกติ ถ้าตั้งสติดีๆ จัดระเบียบให้ชีวิตได้ ก็จะจัดการกับสิ่งเหล่านั้นได้ดีขึ้น แต่ถ้าคุณเริ่มจะแต่งตัวไม่ถูก เลือกเสื้อผ้าแบบแปลกๆ ใส่ชุดนอนออกมาเดินห้างสรรพสินค้าโดยไม่รู้ตัว ไปธนาคาร แล้วไม่รู้ว่าต้องทำอะไรล่ะก็ น่าจะเข้าข่ายสมองเสื่อมแล้วล่ะค่ะ

 
       
    แหล่งข้อมูล : นิตยสาร - HealthToday  
   
ข้อมูลสุขภาพที่เกี่ยวข้อง
 
ชะลออัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ
 
วิธีป้องกันสมองเสื่อม
 
อาหาร...ยาวิเศษเพิ่มพลังสมอง
 
อาการปวดเมื่อยในผู้สูงอายุ
 
เตือนผู้สูงอายุออกกำลังกาย
 
   
 
 
Copyright © 2007 - 2009 by yourhealthyguide.com All rights reserved.