อาหารมังสวิรัติเป็นหนึ่งในรายการอาหารสุขภาพ เพราะไม่มีเนื้อสัตว์ผสมอยู่ในอาหารชนิดดังกล่าว รวมไปถึงกระบวนการทำ เช่น การทอดหรือใช้น้ำซุป ก็ไม่มีซากสัตว์เช่นกระดูกหรือไขมันจากสัตว์ผสมอยู่

เมืองไทยมีอาหารมังสวิรัติมากมาย เช่น มังสวิรัติประเภทกินผักอย่างเดียว ในอาหารยังมองเห็นผักเป็นผัก กระทั่งรสชาติก็ไม่มีการปรุงแต่ง หรือปรุงแต่งรสแต่เพียงเล็กน้อยและเคร่งครัด คือใส่น้ำตาลก็เป็นน้ำตาลทรายแดงหรือน้ำตาลอ้อยไม่ขัดสี

อาหารมังสวิรัติประเภทนี้ ว่ากันว่า เน้นสุขภาพและจิตใจเป็นสำคัญ

ส่วนมังสวิรัติอีกประเภทหนึ่งใช้วัสดุปรุงอาหารอย่างที่บอกไปข้างต้นก่อนหน้านี้ แต่มีการปรุงรสด้วยเครื่องปรุงทุกอย่าง คือ พริกน้ำส้ม น้ำซีอิ๊ว น้ำตาล ตัวของอาหารเองก็มีหน้าตาและชื่อเรียกเหมือนอาหารที่คนไม่กินมังสวิรัติกินอยู่เป็นปรกติ เช่น ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง เทมปุระ ขึ้นไปทางเหนือก็มีน้ำพริกอ่อง หนมเส้นน้ำเงี้ยว เป็นต้น

เวลาตักใส่ปากกินก็จะได้รสชาติอาหารชนิดนั้น ประเภทนั้นไม่ผิดเพี้ยน มิหนำซ้ำอาหารบางจานยังเหมือนเนื้อสัตว์ กระทั่งต้องถามเจ้าของร้านว่านี่ไม่ใช่เนื้อปลาใช่ไหม ประมาณนั้นทีเดียว

เมืองเชียงใหม่มีอาหารมังสวิรัติหลายร้าน และก็เป็นที่นิยมของคนเมืองเหนือทั้งคนไทยและคนเทศ ก่อนเดือนเมษายนที่ผ่านมาไม่กี่วัน ผมแวะเข้าไปกินอาหารมังสวิรัติที่ร้านอาหารชื่อว่า 'มังสวิรัติ ไทยออคิด' ในย่านช้างคลาน เป็นร้านเล็กๆ ตรงหัวมุมติดกับถนนวิชยานนท์ เนื่องจากข้างร้านติดถนน ทางร้านจึงทำเป็นซุ้มสวนร่มรื่น

อาหารร้านนี้มีทั้งข้าวราดแกงแปดเก้าอย่าง และอาหารน้ำคือ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ บะหมี่ อาหารเมืองเช่น ข้าวซอย น้ำพริกอ่อง และหนมเส้นน้ำเงี้ยว นอกจากนี้ยังมีรายการอาหารที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป เช่น ข้าวหมูแดง ราดหน้า สุกี้ ให้คนไม่นิยมกินเนื้อได้กิน อาหารที่ละจากการใช้เนื้อปรุง ทว่า ยังคงรสชาติจัดจ้านไว้ครบถ้วนไม่ตกหล่น

ผมกลับไปกินอาหารที่ร้านแห่งนี้สองวัน เพราะวันแรกประทับใจหนมเส้นน้ำเงี้ยวที่อร่อยจัด น้ำเงี้ยวจานนั้นผมกินโดยไม่ต้องเติมเครื่องปรุงใดๆ รสเปรี้ยวหวานเผ็ดครบทีเดียว ดอกงิ้วที่ใส่ลงมาให้น้ำเงี้ยวเหนียวก็ได้เคี้ยวหนึบๆ น้ำไม่ใส่และไม่ข้นเกินไป

อาหารเมืองอีกจานคือ น้ำพริกอ่อง ที่ร้านนี้ใช้เต้าหู้กระดาน สีขาวร่วนๆ จึงแลคล้ายหมูสับไก่สับ รสชาติหวานนำตามด้วยเผ็ด กลมกล่อมครับ ไม่มันเยิ้มแต่ข้นพอประมาณว่าจิ้มกับผักสดผักลวก กินกับข้าวเหนียวจิ้มติด คือไม่ใส ข้น และรสชาติเข้ากันดีกับข้าวเหนียวและผักต่างๆ

น้ำพริกอ่องนี้ แต่เดิมใช้ปลาได้ทั้งสดและแห้ง ที่สำคัญ นิยมปลาที่คาวน้อยๆ เช่นปลาช่อน

น้ำพริกอ่องที่ใส่หมูสับ ทำเฉพาะในงานเลี้ยงงานสำคัญ เพราะเนื้อหมูมันแพง ส่วนปลาทั้งถูกและหาง่ายกว่า มาเดี๋ยวนี้น้ำพริกอ่องใส่ปลา (สดหรือแห้งก็ได้) หากินยากแล้วครับ (อ่อง หมายถึง ใช้ไฟอ่อนๆ และเคี่ยวนานๆ)

ข้อสังเกตส่วนตัวของผมคือ อาหารที่ร้านมังสวิรัติไทยออคิด ใช้วัสดุไม่ซ้ำซาก คือไม่ใช่มีแต่ โปรตีนอนามัย (เต้าหู้อบแห้งก้อนกลมๆ) ที่บางร้านใส่ลงไปซะทุกอย่าง กินผัดอะไรหรือแกงอะไรก็มีก้อนโปรตีนนี่แหละ น่าเบื่อ แล้วรู้สึกมันง่ายเกินไปหน่อย

อย่างไรก็ตาม อาหารของทางร้านมังสวิรัติไทยออคิด โดยเฉพาะแกงหรือกับราดข้าว มีการหมุนเวียนเปลี่ยนไป เช่นเดียวกับน้ำเงี้ยวและน้ำพริกอ่อง ซึ่งอาจสับเปลี่ยนกับน้ำพริกปลาร้า

ข้าวราดแกงมีวันละประมาณแปดเก้าอย่าง แต่ละอย่างอยู่ในตู้หับปิดมิดชิด อยู่ใกล้ถนนแต่รับรองฝุ่นไม่ลงไป ข้าวกล้องหุงเป็นตัว ไม่เหนียวแฉะหรือแข็งเกินควร

ผมได้กินแกงเมือง คือแกงขนุนอ่อนใส่ยอดชะอม กลิ่นชะอมแรงนะครับสำรับนี้ ใครไม่ชอบกลิ่นชะอมผมว่าชิมสักนิดหรือจะกินคู่กับผัดผักหรืออาหารรสจืดลงมาหน่อยก็ไม่เลว รสชาติเครื่องแกง อมเปรี้ยวเผ็ดหวานครับ

อาหารกินเล่นที่อยากแนะนำคือ เทมปุระ มีทั้งไส้เห็ด สาหร่าย ห่อแล้วเอาไปชุบแป้งทอด กินเรียกน้ำย่อยก็ได้ เพื่อนผมที่ไปด้วยเธอกินกับข้าว แลว่าอร่อยดี แต่ควรกินคู่กับอาหารจำพวกแกงจืด (อร่อยขนาดบางคนเผลอกินจริงกินจังจนอิ่มไปเลย)

รายละเอียดเกี่ยวกับร้านมังสวิรัติไทยออคิด

	ที่ตั้ง : ย่านช้างคลาน เป็นร้านเล็กๆ ตรงหัวมุมติดกับถนนวิชยานนท์
	เปิดบริการทุกวันจันทร์-เสาร์ 08.30 - 16.00 น.
	สอบถามที่โทร. 0-5387-6232, 0-1595-3304