การอาเจียน (Vomiting) เป็นอาการที่เกิดขึ้นเนื่องจากมีความ-ผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร โดยจะมีอาการคลื่นไส้นำมาก่อน เป็นกันได้ทุกวัย ทั้งในเด็ก คนวัยหนุ่มสาว และคนสูงอายุ ซึ่งคนกลุ่มหลังนี้ต้องการ การดูแลมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นวัยที่อ่อนแอ เปราะบาง และส่วนใหญ่จะมีโรคประจำตัวทางอายุรกรรมร่วมด้วย
ตามปกติแล้วสาเหตุที่พบได้บ่อยที่ทำให้เกิดอาการอาเจียน คือการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งอาจจะเกิดการติดเชื้อได้ตั้งแต่ในกระเพาะอาหารจนถึงลำไส้ใหญ่ ซึ่งต่อไปนี้มักจะเป็นสาเหตุของการอาเจียนที่พบบ่อย
|
|
อาหารเป็นพิษจากการมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน ซึ่งอาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วย
การรับประทานอาหารในหน้าร้อนนี้ จึงควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ |
|
|
โรคกระเพาะ หรือกระเพาะอาหารอักเสบ |
|
|
อาเจียนจากการไอมากๆ |
|
|
เกิดการอุดตันในลำไส้ |
|
|
เกิดจากโรคบางโรค |
|
|
อาเจียนหลังจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก |
|
|
เป็นผลข้างเคียงของยาบางชนิด หรือแพ้ยา ซึ่งควรกลับไปปรึกษาแพทย์ผู้จ่ายยาหรือพบแพทย์ประจำตัว |
|
|
เมาพาหนะ เช่น เมารถ เมาเรือ |
|
|
อยู่ท่ามกลางอากาศร้อนมาก |
|
|
เกี่ยวเนื่องจากระบบประสาท เช่น มีความเครียดมาก ตื่นเต้น หรืออยู่ในภาวะกดดัน |
การอาเจียนยังเป็นอาการของโรคอื่นๆ อีกหลายๆ โรค เช่น โรคที่เกี่ยวกับสมอง ตับ ไต รวมถึงโรคมะเร็งด้วย ซึ่งหากเป็นมากกว่า 1 ครั้ง ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ แต่ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อเกิดอาเจียนจำเป็นจะต้องระมัดระวังเรื่องของอาการ ขาดน้ำ (dehydration) เป็นสำคัญ โดยเฉพาะในคนอ่อนแออย่างคน สูงอายุ ซึ่งเมื่อมีอาการขาดน้ำและอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้ต้องรีบพาไปพบแพทย์
|
|
รอบดวงตาคล้ำ |
|
|
ปากแห้ง |
|
|
ปัสสาวะน้อยลง |
|
|
ผิวหนังแห้งและไม่ดีดตัวกลับเมื่อคุณหยิกหรือจิกลงไประหว่างนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ |
|
|
รู้สึกเวียนงง และสับสน |
|
|
มีไข้สูงกว่า 101 ํ F นานกว่า 24 ชั่วโมง |
|
|
ความดันโลหิตสูงขึ้นหรือลดลงอย่างมาก |
|
|
อ่อนเพลียมาก |
|
|
อาเจียนมากไม่หยุด และปวดท้องรุนแรง |
|
|
อาเจียนในขณะที่เป็นเบาหวาน |
|
|
ผิวซีดเหลือง รวมทั้งตาขาวเป็นสีเหลืองด้วย |
|
|
อาเจียนเป็นเลือด หรือสีเหมือนน้ำกาแฟ |
แต่ในกรณีที่มีสาเหตุที่ไม่รุนแรงหรือได้รับการวินิจฉัยรักษาจากแพทย์แล้ว หลังจากมีอาการดีขึ้นแล้วลูกหลานหรือผู้ดูแลควรให้การดูแลผู้สูงอายุดังนี้
|
|
ให้งดรับประทานอาหารใดๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง เพื่อให้กระเพาะได้พัก แต่ให้ค่อยๆ จิบน้ำเปล่าได้ เมื่อไม่มีอาการคลื่นไส้ |
|
|
เมื่อหายจากอาการคลื่นไส้ให้เริ่มต้นด้วยอาหารอ่อนๆ เช่น
ซุปใส เยลลี่ น้ำโซดาเปล่าๆ แต่อย่าดื่มเครื่องดื่มจำพวกน้ำอัดลม |
|
|
ในวันต่อมาให้รับประทานอาหารอ่อนนุ่ม เช่น ข้าวต้ม กล้วยสุก ซุป และควรรับประทานในปริมาณน้อย แต่บ่อยครั้ง ลองดูว่ากระเพาะรับได้หรือไม่ อย่ารับประทานครั้งและมากๆ |
|
|
พักผ่อนให้มากๆ ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก อากาศเย็นสบาย |
|
|
อย่าดื่มนมหรือรับประทานผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม |
|
|
หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ บุหรี่ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา โคคา-โคล่า เพราะจะระคายเคืองกระเพาะอาหาร
รับประทานยาตามแพทย์สั่ง |
การอาเจียนเป็นสัญญาณบ่งบอกความผิดปกติที่เกิดขึ้น จึงอย่าชะล่าใจโดยเฉพาะในผู้สูงวัย ดูแลใส่ใจท่านอย่างใกล้ชิด แม้หายอาเจียนแล้วก็ยังต้องคอยดูอาการต่อไปอีกระยะหนึ่ง
|