ความดันโลหิตสูงคือ อะไร
คือความดันในหลอดเลือดแดง ที่เกิดจากหัวใจบีบตัว ส่งเลือดผ่านหลอดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย เราสามารถรู้ระดับความดันโลหิตของตนเองได้ โดยเครื่องวัดความดันโลหิตทั่วไป จะให้ค่าความดันโลหิต 2 ค่า คือค่าความดันโลหิตตัวบนและค่าความดันโลหิตตัวล่าง ในบุคคลทั่วไป ค่าความดันโลหิตตัวบน จะมีค่าประมาณ 120 มิลลิเมตรปรอท และค่าความดันโลหิตตัวล่างมีค่าประมาณ 120/80 (คือตัวบนเท่ากับ 120 ตัวล่างเท่ากับ 80)
โดยทั่วไปค่าความดันโลหิตของเรา จะไม่คงที่อยู่ตลอดเวลา เช่น หลังออกกำลังกายหนักๆ หรือในขณะที่มีความตื่นเต้นตกใจ ค่าความดันโลหิตก็จะสูงเพิ่มขึ้นกว่าปกติได้ แต่หลังจากได้พักหลังออกกำลังกาย หรือหายจากภาวะตื่นเต้นตกใจแล้ว ค่าความดันโลหิตก็จะลดลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติได้เอง
การวัดความดันโลหิตที่ต่างเวลากันในแต่ละวัน ก็อาจได้ค่าความดันโลหิตที่ไม่เท่ากัน พบว่าความดันโลหิตในช่วงเวลากลางวัน จะสูงกว่าเวลากลางคืน ประมาณร้อยละ 10-20 เพราะฉะนั้น การวัดความดันโลหิตเพื่อวินิจฉัยว่า มีปัญหาความดันโลหิตสูงหรือไม่ จึงมีการกำหนดกฎเกณฑ์ ให้วัดความดันโลหิตในขณะที่ผู้นั้นไม่อยู่ในภาวะเฉียบพลัน และควรใช้ค่าเฉลี่ยของการวัดมากกว่า 2 ครั้ง ในการรายงานผลค่าความดันโลหิตต่อการตรวจแต่ละครั้ง ในการรายงานผลค่าความดันโลหิตต่อการตรวจแต่ละครั้ง
เมื่อใดจึงจะเรียกว่ามีความดันโลหิตสูง
ในบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้รับประทานยาลดความดันโลหิต และไม่ได้อยู่ในภาวะเจ็บป่วยเฉียบพลัน ถ้าวัดความดันโลหิตพบว่า ค่าความดันโลหิตตัวบนเท่ากับหรือมากกว่า 140 มิลลิเมตรปรอท จากการตรวจมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไป ให้ถือว่าผู้นั้นมีความดันโลหิตสูง
ความดันโลหิตสูงมีผลต่อร่างกายเราอย่างไร
จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงจะมีโอกาสเป็นอัมพาต เกิดจากหัวใจล้มเหลว, หลอดเลือดเลือดหัวใจตีบ มากกว่าผู้ที่ไม่มีโรคความดันโลหิตสูง และพบว่าผู้ที่มีความดันโลหิตสูง และได้รับการรักษา จนความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ จะสามารถลดอัตราการเกิดอัมพาต, หัวใจล้มเหลวได้อย่างมีนัยสำคัญ
อาการของความดันโลหิตสูง
อาการที่พบบ่อยเช่น เวียนศรีษะ ปวดศรีษะ ตาพร่ามัว แต่ไม่ควรรอจนกระทั่งมีอาการ แล้วค่อยตรวจเช็คความดัน เพราะอาจสายไป เนื่องจากผู้ที่มีความดันโลหิตในระยะเริ่มต้น อาจไม่มีอาการผิดปกติของร่างกายให้พบได้ (***ขอแนะนำ
สำหรับท่านที่อายุ 40 ปีขึ้นไป ถึงแม้จะรู้สึกแข็งแรงดีมาตลอดก็ตาม ท่านควรได้รับการตรวจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง)
ข้อควรปฎิบัติสำหรับผู้ที่ความดันโลหิตสูง
|
1. |
ลดน้ำหนักตัวในผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน โดยการควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทานต่อวัน และเพิ่มการออกกำลังกาย โดยไม่ควรใช้ยาลดความอ้วน เพราะยามักมีผลทำให้ความดันโลหิตสูง รวมทั้งเกิดผลข้างเคียงอื่นๆ ตามมาอีกด้วย |
|
|
งดการสูบบุหรี่ รวมทั้งงดการดื่มสุราและของมึนเมา |
|
3. |
ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์ แนะนำให้เลือกออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหว เช่น การเดิน การวิ่งเหยาะๆ หรือการแกว่งแขน ไม่ควรออกกำลังกายหนักเกินไปจนเหนื่อยมาก ควรให้รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยหลังออกกำลังกายก็พอ |
|
4. |
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเค็ม เช่น ปลาเค็ม เนื้อเค็ม ขนมขบเคี้ยวที่มีรสเค็ม เต้าเจี้ยว เต้าหู้ยี้ อาหารดองเค็ม รวมทั้งไม่ปรุงอาหารให้เค็ม โดยไม่เติมเกลือหรือน้ำปลาเพิ่ม เวลารับประทานอาหารนอกบ้าน นอกจากนี้ ผงชูรสก็ประกอบด้วยธาตุโซเดียม จึงไม่ควรรับประทานมากเช่นกัน
(***อาหารเค็มจะมีแร่ธาตุโซเดียม ซึ่งทำให้โรคที่เป็นอยู่รุนแรงขึ้นได้ การจำกัดแร่ธาตุโซเดียมในอาหาร เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาความดันโลหิต ที่ได้ผลนอกเหนือไปจากการใช้ยา) |
|
5. |
รับประทานผักผลไม้เป็นประจำทุกวัน (สำหรับผลไม้ท่านที่เป็นโรคเบาหวาน ต้องระมัดระวังในเรื่องระดับน้ำตาลในกระแสเลือดด้วย ) |
|
6. |
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและโคเลสเตอรอลสูง เช่น เนย กะทิ ขนมเค้ก มันฝรั่งทอด ไข่ปลา หนังหมู หนังไก่ อาหารประเภททอดทั้งหลาย หอยนางรม กุ้ง ปลาหมึก ไข่แดง (ไม่ควรรับประทานเกิน 3 ฟองต่อสัปดาห์) |
|
7. |
พักผ่อนให้เพียงพอและไม่เครียด |
เมื่อใดจึงจะใช้ยารักษาความดันโลหิตสูง
เมื่อปฏิบัติตนดีแล้วแต่ยังมีความดันโลหิตสูงตลอด หรือความดันโลหิตสูงเกินไปที่จะควบคุมได้ ด้วยการปฏิบัติตัวเพียงอย่างเดียว
ในปัจจุบันมียาหลายชนิด ที่ใช้รักษาความดันโลหิตสูง ส่วนใหญ่สามารถใช้รักษาความดันโลหิตได้ทุกตัว แต่จะแตกต่างกันที่ ผลข้างเคียงของยา, จำนวนครั้งที่ต้องรับประทานในแต่ละวัน, และราคาของยาแต่ละชนิด การที่จะเลือกใช้ยาตัวใดนั้น แพทย์จะพิจารณาจากสภาพร่างกายของผู้ป่วย และโรคประจำตัวอื่นๆ ของผู้ป่วยที่ต้องรักษาร่วมด้วย
ภาวะความดันโลหิตสูง ส่วนใหญ่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การใช้ยาลดความดันโลหิต สามารถลดอัตราการเกิดอัมพาต และหัวใจล้มเหลวในผู้ป่วยได้อย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นเพื่อให้ได้ผลดีจากการรักษาอย่างเต็มที่ ผู้ป่วยต้องเอาใจใส่ในการปฏิบัติตัวให้ถูกต้องด้วย
รับการวัดความดันโลหิตเป็นระยะ และรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ
เพื่อควบคุมความดันโลหิต ของท่านให้อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอด
ข้อมูลจาก รพ.พระมงกุฏฯ
|