ภาพยนตร์เรื่อง หนึ่งใจเดียวกัน ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ที่ทรงอำนวยการสร้าง ประพันธ์บทภาพยนตร์ และทรงแสดงนำ นอกจากจะสร้างความประทับใจแล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ ฉาก โลเกชั่น อันงดงาม โดยเฉพาะ โรงเรียนเพียงหลวง ฉากไฮไลท์สำคัญของเรื่องที่ตั้งโดดเด่นอยู่ท่ามกลางนาขั้นบันไดอันสวยงาม
ในเรื่องหนึ่งใจเดียวกัน (สมมติ) ให้โรงเรียนเพียงหลวง ตั้งอยู่ที่บ้านเพียงหลวง หมู่บ้านเล็กๆ กลางป่าใหญ่ ในอำเภอห่างไกลของจังหวัดเชียงราย แต่กับสถานที่จริงโลเกชั่นถ่ายทำโรงเรียนบ้านเพียงหลวงนั้น ตั้งอยู่ที่ บ้านแม่กลางหลวง ต. บ้านหลวง อ. จอมทอง จ. เชียงใหม่ เชิงดอยอินทนนท์ ดินแดนสูงสุดแห่งสยาม แม่กลางหลวง เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวชุมชนเชิงนิเวศ อันสงบงามท่ามกลางป่าใหญ่ ที่ยังคงไว้ด้วยวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ แบบอดีต อีกทั้งชาวชุมชนยังผูกพันแนบแน่นกับธรรมชาติ ป่า ดิน น้ำ ต้นไม้
รักจัง รักจริง น้ำตกผาดอกเสี้ยว
สำหรับเส้นทางเดินป่าเที่ยวบ้านแม่กลางหลวงนั้น มีอยู่ประมาณ 3-4 เส้นทาง ซึ่งในทริปนี้ เลือกใช้เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยว ที่มีระยะทางเดินป่าแบบไม่ยากลำบาก (เพราะเดินลงเป็นส่วนใหญ่) ประมาณ 3 กิโลเมตร โดยมีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ กม.30 ริมถนนขึ้นดอยอินทนนท์
ช่วงแรกของเส้นทาง เป็นการเดินผ่านผืนป่าในเขตหมู่บ้านม้ง เคียงคู่ไปตามลำน้ำแม่กลาง ที่รอบข้างร่มรื่นเขียวครึ้มไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย รวมถึงบรรดามอสเฟินที่ดูเขียวชอุ่มนุ่มตา ก่อนที่จะไปพบกับแปลงผักที่ชาวบ้านปลูกส่งโครงการหลวงอินทนนท์ เป็นอีกหนึ่งจุดสนใจ จากนั้นอีกไม่กี่อึดใจ ก็จะพบกับสายน้ำตกผาดอกเสี้ยวชั้นบนไหลเป็นสายขาวฟูฟ่อง
จากนั้นลำธารที่ไหลรี่ ก็แปรเปลี่ยนเป็นสายน้ำตกชั้น 7 ไหลซู่เป็นสายขาวฟูฟ่องที่คะเนความสูงดูน่าจะราวๆ 20 เมตรเห็นจะได้
น้ำตกผาดอกเสี้ยวชั้นนี้ถือเป็นชั้นไฮไลท์ เนื่องจากมีความสวยงามสุด แถมยังดูเท่ด้วยสะพานไม้สร้างอย่างเรียบง่ายข้ามธารน้ำตก ช่วยเสริมองค์ประกอบให้น้ำตกชั้นนี้กลายเป็นจุดพัก และจุดยืนแอ๊คท่าถ่ายรูปสำคัญของเหล่านักท่องเที่ยว
เท่านั้นยังไม่พอ หากใครที่เคยชมภาพยนตร์เรื่อง รักจัง (ที่มีโลเกชั่นหลักอยู่ที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน) ก็จะคุ้นตากับสายน้ำตกแห่งนี้เป็นพิเศษ เพราะน้ำตกผาดอกเสี้ยวหรือที่บางคนเรียกว่า น้ำตกรักจัง ชั้นนี้มีโอกาสได้เข้าฉากอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะฉากที่คู่พระ-คู่นาง ระหว่าง พระเอกสุดหล่อ ฟิล์ม และสาวสวยเซ็กซี่ พอลล่า มานั่งจู๋จี๋กันบนสะพานนั้น ถือเป็นไอดอลให้กับคู่รัก คู่ปิ๊ง นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
นาขั้นบันได งามจับใจ สวยตรึงตรา
โครงการท่องเที่ยวชุมชนที่บ้านแม่กลางหลวง ถือกำเนิดขึ้นเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว โดยค่อยๆ ปรับเปลี่ยนแนวคิดของชาวบ้านในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ สัตว์ ดินน้ำ และวิถีชีวิตวัฒนธรรม จนทำให้บ้านกลางหลวงมีวันนี้ กลายเป็นชุมชนเข้มแข็งทางการท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย ที่มีกฎของชุมชนค่อนข้างเคร่งครัด
ชาวบ้านยึดตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ทำการท่องเที่ยวเป็นอาชีพเสริม ปลูกข้าวเป็นอาชีพหลัก แต่ปลูกเอาไว้กิน ไม่ได้ตั้งใจปลูกเอาไว้ขาย หากข้าวเหลือถึงจะขายบ้างเป็นบางคราว
นาขั้นบันไดที่ชาวบ้านปลูกข้าวลัดเลาะไปตามภูมิประเทศ ดูเป็นขั้น เป็นชั้น กว้างไกล โดยมีกระท่อมเฝ้านาสร้างขึ้นแบบเรียบง่ายในบางจุด ช่วยให้ภาพนาขั้นบันไดที่เห็นดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับช่วงกลางหน้าฝนอย่างนี้ นาข้าวที่นี่ดูเขียวขจี สดใส ยามต้องลม ต้นข้าวจะพลิ้วไหว โบกสะบัด ประหนึ่งกำลังเริงระบำรับสายลม ในขณะที่ชาวบ้านที่นี่ต่างก็จูงวัวควายออกมาทำนา ตัดหญ้า อาบน้ำท่ากันริมลำธาร ดูมีชีวิตชีวายิ่งนัก
นอกจากการทำนาขั้นบันไดกลมกลืนไปกับผืนป่าและขุนเขาที่โอบล้อมแล้ว ที่นี่ยังมี เฉลว ไม้ไผ่ ปักไว้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อดั้งเดิม ที่ยังแนบแน่นเคารพนบนอบต่อผืนดินและแม่โพสพ ที่เดี๋ยวนี้เฉลวกลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับคนเมืองไม่แพ้กับหุ่นไล่กาเลยทีเดียว
บ้านเรือนในละแวกนั้น มีบ้านหลายหลังจัดทำเป็นโฮมสเตย์ บางบ้านมีสาวนั่งทอผ้า บางบ้านเลี้ยงหมูดำไว้ที่ใต้ถุน รวมถึงมีบ้าน 1 หลังที่จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชน จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของชนเผ่ากันแบบเรียบง่ายตามอัตภาพ
หลังชมหมู่บ้านแล้ว นาขั้นบันไดช่วงสุดท้ายจะเป็นจุดถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องหนึ่งใจเดียวกัน ที่วันนี้ฉากที่ใช้ถ่ายทำโรงเรียนเพียงหลวงถูกรื้อถอนไปแล้ว เหลือแต่เพียงทุ่งนาขั้นบันได มองเห็นต้นข้าวเขียวขจีขึ้นลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศดูสวยงาม อิ่มใจดีแท้
ขณะที่ริมทุ่งนาฝั่งริมน้ำที่ไหลเอื่อยๆ นั้น มีบ้านพักชุมชน (Village Stay) ปลูกสร้างเอาไว้รองรับนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือก นอกเหนือไปจากโฮมสเตย์ ที่ช่วยเสริมองค์ประกอบ แห่งท้องทุ่งนาขั้นบันไดแห่งนี้ ให้น่าดูยิ่งขึ้น โดยเฉพาะช่วงเย็นที่แดดอ่อนแสง ลมเบาๆ พัดโชยพลิ้ว ทุ่งนาที่นี่ดูโรแมนติกอย่าบอกใครเชียว
แต่นอกเหนือจากความโรแมนติกแล้ว สิ่งที่ได้จากแม่กลางหลวงก็คือ ได้เห็นถึงคุณค่าของนาข้าว คุณค่าของชาวนา และที่สำคัญก็คือ คุณค่าของหมู่บ้านเล็กๆ กลางป่าใหญ่ ที่หากเปิดหัวใจและใส่จินตนาการเข้าไป เราก็จะพบกับเสน่ห์ ความงาม และคุณค่าของบ้านแม่กลางหลวงได้อย่างไม่ยากเย็น
รายละเอียดเกี่ยวกับบ้านแม่กลางกลวง
|
ที่ตั้ง : อยู่ในหุบเขานาขั้นบันได อันเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 3 เชิงดอยอินทนนท์ ในเขตการปกครองของหมู่ 17 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ |
|
|
|
การเดินทาง : รถยนต์ส่วนตัว สามารถเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่ ฮอด) ผ่านอำเภอหางดง อำเภอสันป่าตอง และอำเภอจอมทอง เป็นระยะทาง 50 กิโลเมตรโดยประมาณ แล้วเดินทางต่อไปตามเส้นทางอำเภอจอมทอง อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงหมายเลข 1009) อีกประมาณ 26 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่บ้านแม่กลางหลวง
|
|
|
|
รายละเีีอียด : ชาวบ้านแม่กลางหลวงล้วนเป็นปกาเกอะญอ ที่มีวิถีชีวิตผูกพันอยู่กับธรรมชาติ และมีความเชื่อ ประเพณีที่ยึดถือเป็นเอกลักษณ์ ในชุมชนได้มีการจัดการท่องเที่ยวโดยจัดทำพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน และศูนย์วัฒนธรรมปกาเกอะญอ พร้อมทั้งกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เที่ยวชมและศึกษาวิถีชีวิตชนเผ่า การทอผ้า การทำนาขั้นบันได แปลงปลูกสตรอว์เบอรี่ แปลงดอกไม้ การขับลำนำที่เรียกว่า อื่อทา ตลอดจนบริการที่พักแบบโฮมสเตย์และที่พักชุมชน (Village Stay) ริมนาขั้นบันได รวมถึงที่พักแบบเต็นท์
ทั้งนี้ การเที่ยวชมนาขั้นบันไดนั้นจะเป็นไปตามฤดูกาล คือช่วงหน้าฝนจะเขียวขจี ช่วงหน้าหนาวก็จะเหลืองทองอร่าม ส่วนช่วงหน้าร้อนจะเก็บเกี่ยวเหลือเพียงร่องรอยของท้องนา
สำหรับสนนราคานั้นอยู่ที่
-
บ้านพัก Home Stay 200 บาท/หลัง/คืน
-
บ้านพักแบบ Village Stay 300 - 2,000 บาท/หลัง (อัตราค่าที่พักมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลท่องเที่ยว)
- ค่าอาหาร 50 บาท/คน/มื้อ
- ค่ามัคคุเทศก์ท้องถิ่น/ลูกหาบ 200 บาท/คน/วัน ฯลฯ |
|
|
|
สอบถามรายละเีอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร.
- บ้านแม่กลางหลวง : 08-1020-3615, 08-9952-0983 , 08-1960-8856
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ : 053-248604, 053-248607 |
ผู้จัดการออนไลน์ - 20 สิงหาคม 2551
|