ไข้เลือดออก |
---|
อุบัติการณ์ของโรคไข้เลือดออก ประชากรประมาณ 2500 ล้านคน ในประเทศที่มีการระบาด จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้เลือดออก ประมาณว่าจะมีการติดเชื้อปีละ 50 ล้านคน และต้องนอนโรงพยาบาล มากกว่า 500000 คนต่อปี อัตราการเสียชีวิต ประมาณร้อยละ 2.5 แต่อาจจะสูงถึงร้อยละ 20 หากให้การรักษาอย่างดี อัตราการเสียชีวิต อาจจะลดลงต่ำกว่าร้อยละ1 สาเหตุของไข้เลือดออก โรคไข้เลือดออก เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากยุงลาย Aedes aegyti ตัวเมีย บินไปกัดคนที่ป่วยเป็นไข้เลือดออก โดยเฉพาะช่วงที่มีไข้สูง เชื้อไวรัสแดงกี่ จะเพิ่มจำนวนในตัวยุง ประมาณ 8-10 วัน เชื้อไวรัสแดงกี่ จะไปที่ผนังกระเพาะ และต่อมน้ำลายของยุง เมื่อยุงกัดคน ก็จะแพร่เชื้อสู่คน เชื้อจะอยู่ในร่างกายคน ประมาณ 2-7 วัน ในช่วงที่มีไข้ หากยุงกัดคนในช่วงนี้ ก็จะรับเชื้อไวรัสมาแพร่ให้กับคนอื่น ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นเด็ก โรคนี้ระบาดในฤดูฝน ยุงลายชอบออกหากิน ในเวลากลางวันตามบ้านเรือน และโรงเรียน ชอบวางไข่ตามภาชนะที่มีน้ำขัง เช่น ยางรถยนต์ กะลา กระป๋อง จานรองขาตู้กับข้าว แต่ไม่ชอบวางไข่ ในท่อระบายน้ำ ห้วย หนอง คลอง บึง เมื่อไรจะสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก อาการของไข้เลือดออกไม่จำเพาะ อาการมีได้หลายอย่าง ในเด็กอาจจะมีเพียงอาการไข้และผื่น ใผู้ใหญ่อาจจะมีไข้สูง ปวดศรีษะ ปวดตามตัว ปวดกระบอกตา ปวดกล้ามเนื้อ หากไม่คิดโรคนี้ อาจจะทำให้การรักษาช้า ผู้ป่วยอาจจะสียชีวิต ลักษณที่สำคัญของไข้เลือกออกคือ " ไข้สูงเฉียบพลัน ประมาณ 2-7 วัน " เบื่ออาหาร หน้าแดง ปวดศีรษะ ร่วมกับอาการคลื่นไส้อาเจียน และอาจมีอาการปวดท้องร่วมด้วย บางราย อาจมีจุดเลือดสีแดงขึ้นตามลำตัว แขน ขา อาจมีกำเดาออก หรือเลือดออกตามไรฟัน และถ่ายอุจาระดำเนื่องจากเลือดออก และอาจทำให้เกิดอาการช็อคได้ ในรายที่ช็อค จะสังเกตได้จากการที่ไข้ลด แต่ผู้ป่วยซึมลง ตัวเย็น หมดสติ และเสียชีวิตได้ การป้องกันโรคไข้เลือดออก วิธีป้องกันไข้เลือดออก ที่ได้ผลดีและยั้งยืน ต้องเป็นแบบบูรณการ โดยการร่วมมือของทุกฝ่าย ภาคครัวเรือนต้องป้องกัน โดยการกำจัดแหล่งน้ำที่เพาะพันธุ์ยุง และการป้องกันส่วนบุคคล
ภาคชุมชน จะต้องมีการรณรงค์ ให้มีการกำจัดแหล่งลูกน้ำในชุมชน อย่างน้อยปีละ 2-3 ครั้งและจะต้องทำพร้อมกัน ทั่วประเทศโดยการโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ |
|||||||||||||||||||||
แหล่งข้อมูล : www.pngo.moph.go.th/thaimuang_hos/ | |||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||
Copyright © 2007 - 2009 by yourhealthyguide.com All rights reserved. |