เมื่อไม่นานนี้เชื่อว่าเราๆ ท่านๆ คงได้ติดตามข่าวดาราใหญ่คนหนึ่งป่วยเป็นโรคต้อหิน ข่าวที่เกิดขึ้นอย่างปุบปับนี้ ทำให้หลายคนอาจเกิดเอะใจว่า จะป้องกันโรคนี้ได้อย่างไร แล้วอาการตาที่ฝ้าฟางอยู่ใช่อาการของโรคนี้หรือไม่ เรามาดูวิธีป้องกันโรคต้อหินเบื้องต้นกันก่อน
|
1. |
ป้องกันแรงกระทบกระเทือนและอันตรายต่างๆ ที่จะเกิดกับดวงตา |
|
|
|
ถนอมดวงตา เช่น อ่านหนังสือ ทำงาน หรือทำกิจกรรมที่ใช้สายตา ในที่ที่มีแสงสว่างพอเหมาะ |
|
3. |
รับประทานอาหารที่มีวิตามินเอ เช่น แครอท ถั่ว ปลา ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย |
|
4. |
ไม่ใช้ยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ หรือยาหยอดตาที่มีอะโทรพีน |
|
5. |
ผู้ป่วยเบาหวานให้พบจักษุแพทย์ เพื่อตรวจหาว่ามีอาการเบาหวานขึ้นจอตาหรือไม่ |
|
6. |
ตรวจสุขภาพสายตาปีละ 1 ครั้ง หากมีอาการผิดปกติกับดวงตา อย่าปล่อยไว้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง |
|
7. |
ระวังโรคที่ส่งผลร้ายต่อดวงตา เช่น ม่านตาอักเสบ ซิฟิลิส วัณโรค |
ส่วนใครที่กำลังสงสัยว่าดวงตาของตัวเองมีอาการเข้าข่ายโรคที่ว่าด้วยหรือเปล่า ให้สังเกตตัวเองตามนี้ค่ะ
|
1. |
เห็นแสงสว่างจ้าตอนกลางวันเป็นแสงสลัวลงเรื่อยๆ เหมือนอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน |
|
|
ภาพที่เห็นเหมือนมีหมอกจางๆ บดบังอยู่เกือบตลอดเวลา และอาการนี้มักหายไป ถ้าได้หลับตาหรือนอนหลับสักครู่หนึ่ง จากนั้นอาการจะกลับมาอีก |
|
3. |
การมองเห็นในที่มืดแย่ลง โดยเฉพาะช่วงที่ต้องปรับสายตาให้เข้ากับความมืด อย่างช่วงพลบค่ำ |
|
4. |
เห็นสีตัวหนังสือจางลง มองแล้วลานตา แม้จะใส่แว่นอาการก็ยังคงอยู่ มองรายละเอียดของใบหน้าไม่รู้ว่าส่วนไหน คือ ตา จมูก ปาก จำคนไม่ได้ |
แม้โรคต้อหินจะเป็นโรคร้ายแรง แต่ถ้าใส่ใจป้องกัน หรือถ้าเป็นแล้วได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ ก็สามารถรักษาหายขาดได้ค่ะ
นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 221
|