ไตรกลีเซอไรด์ คือ สารอาหารประเภทไขมัน ที่ได้จากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป และจากการสร้างขึ้นเองในร่างกาย โดยตับและลำไส้เล็ก เป็นตัวสร้างไตรกลีเซอไรด์ 1 กรัม ให้พลังงาน 9 แคลลรี่ ไตรกลีเซอไรด์ละลายอยู่ในเลือดได ้โดยรวมตัวกับโปรตีน ดูดซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย บางส่วนถูกสะสมไว้ที่เนื้อเยื่อไขมัน
ไตรกลีเซอไรด์สูงในเลือดมีอันตรายหรือไม่
ปัญหาและอันตราย จากโรคไตรกลีเซอไรด์สูงในเลือด ทำให้
|
1. |
หลอดเลือดแดงแข็งตัว ถ้าเกิดที่หัวใจทำให้เป็นโรคหัวใจขาดเลือด ถ้าเกิดที่สมองทำให้เป็นอัมพาต |
|
|
ทำให้เกิดอาการร่วมคือ ปวดท้อง ตับโต ม้ามโต และทำให้ระบบประสาททำงานผิดปกติ ปวดข้อ |
สาเหตของการเกิดไตรกลีเซอไรด์สูง
|
1. |
กินอาหารไม่ถูกส่วน โดยเฉพาะกินอาหารที่มีไขมันมาก กินน้ำตาลทราย หรือขนมหวานเป็นปริมาณมากเกินไป |
|
|
เกิดจากโรคภัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดความผิดปกติ ของระดับไขมันในร่างกาย ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคไต การดื่มเหล้าเป็นประจำ และขาดการออกกำลังกาย |
|
3. |
เกิดจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับไลโปโปรตีน เช่น ร่างกายขาดเอนไซด์ ที่จะย่อยไตรกลีเซอไรด์ |
ทราบได้อย่างไรว่าจะเป็นโรคไตรกลีเซอไรด์สูงในเลือดหรือไม่
โดยทำการเจาะเลือดตรวจวัดปริมาณไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง
การตรวจ
|
1. |
งดอาหารทุกชนิด ก่อนเจาะเลือดอย่างน้อย 12 ช.ม. |
|
|
ในคนปกติจะมีระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ไม่เกิน 150 มิลลิกรัม ต่อเลือด 100 มิลลิลิตร |
แหล่งอาหารที่ทำให้ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง
|
1. |
อาหารทุกชนิดที่มีปริมาณไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันสัตว์ |
|
|
น้ำตาล อาหารรสหวานจัด ขนมหวานทุกชนิด เนื่องจากร่างกายสามารถ นำไปสร้างเป็นไตรกลีเซอไรด์ |
การป้องกันและบำบัดรักษา
|
1. |
ลดปริมาณอาหารไขมัน ที่รับประทานให้น้อยลง โดยโดยเฉพาะไขมันจากสัตว์ |
|
|
ลดปริมาณการกินข้าว แป้ง น้ำตาลทราย หรือขนมของหวานต่าง ๆ ให้น้อยลง กินในปริมาณที่พอควร แก่ความต้องการของร่างกายเท่านั้น |
|
3. |
ควรลดน้ำหนักตัวในรายที่อ้วนมากเกินไป |
|
4. |
หมั่นออกกำลังกายทุกวันอย่างสม่ำเสมอ |
|
5. |
งดดื่มเหล้า เนื่องจากเหล้าจะกระตุ้น ให้มีการสร้างไตรกลีเซอไรด์มากขึ้น |
|
6. |
แพทย์จะให้ยาลดไตรกลีเซอไรด์ รับประทานในรายที่จำเป็น ควบคู่กับการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง |
|