หน้าแรก
ข้อมูลสุขภาพ
เว็บ สุขภาพ
ร้านอาหาร เพื่อสุขภาพ
เว็บ โรงพยาบาล
แนวสันทรายบางเบิด - ประจวบคีรีขันธ์
ท่องเที่ยว วันหยุด
ท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์
ท่องเที่ยว เชิงนิเวศ
ท่องเที่ยว ข้อมูล อุทยานแห่งชาติ
 


ชายฝั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เริ่มต้นจากอำเภอไหน แน่นอนหลายคนตอบได้ทันทีว่าที่ หัวหิน แต่ถ้าเปลี่ยนมาถามว่า แล้วชายฝั่งของ จ. ประจวบคีรีขันธ์ ไปสิ้นสุด ณ ที่ใด ใครรู้บ้าง ยิ่งถามว่าจังหวัดชุมพร เริ่มต้นที่อำเภอไหน หลายคนคงต้องกางแผนที่ตอบคำถามกันเลยที่เดียว เพราะทั้งอำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายนัก
       
แต่ช้างเผือกย่อมอยู่ในป่าฉันใด ของดีๆ ก็มีแอบซ่อนอยู่ในเขตพื้นที่รอยต่อของสองจังหวัดนี้ฉันนั้น แนวสันทรายบางเบิด คือ ช้างเผือกที่กล่าวถึง สันทรายกองใหญ่มหึมา เม็ดทรายเล็กละเอียดดุจแป้ง กองพาดผ่านเส้นทางริมชายฝั่ง ระหว่าง บ้านบางเบิด ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่รอยต่อในบ้านถ้ำธง ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร เป็นแนวสันทรายที่ได้รับการยกย่องว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
       
ลมเพลมพัด...สันทราย
       
เม็ดทรายละเอียดขาวสูงกว่า 30 เมตร ตลอดระยะทางที่ยาวถึง 10 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ทอดตัวคู่ขนานกับชายหาดรูปจันทร์เสี้ยว ขนาบข้างด้วยป่าเขา คือ ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่ออกแบบโดยน้ำและลมกินเวลานานนับพันๆ ปี

ปรากฏการณ์สันทรายเช่นนี้ ใช่ว่าจะเกิดกันได้ง่ายๆ ต้องอาศัยปัจจัยหลายประการ ลมที่พัดต้องแรงสม่ำเสมอต่อเนื่องยาวนาน หน้าทะเลเปิดโล่ง หาดทรายในระยะน้ำขึ้นลงกว้างพอที่จะให้เม็ดทรายแห้งทัน และปลิดปลิวตามลมขึ้นมาจนชายฝั่งยกตัวต่อเนื่อง ค่อยๆ ทับถมทีละเล็กทีละน้อยจนกลายเป็นเนินสันทรายขนาดมหึมา แม้อาจเทียบไม่ได้กับสันทรายบางแห่งในต่างประเทศ เช่น ประเทศออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์ ที่มีสันทรายใหญ่กว่านี้หลายเท่า แต่ถ้าพูดถึงในเมืองไทยสันทรายบางเบิดคืออันดับหนึ่ง
       
หัวหน้าโครงการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ จ.ชุมพร เล่าถึงการกำเนิดของสันทรายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศให้ฟังว่า ลักษณะพื้นที่แถบนี้เป็นเนินสันทรายชายทะเล ที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ช่วงปลายของยุคน้ำแข็งประมาณ 1.8 ล้านถึง 14,000 ปีก่อนปัจจุบัน น้ำแข็งที่ปกคลุมอยู่ทั่วโลกเริ่มหลอมละลาย ระดับน้ำทะเลจึงสูงกว่าในระดับปัจจุบัน ทำให้เกิดการรุกล้ำของน้ำทะเล ส่งผลให้พื้นดินในปัจจุบันที่อยู่ริมฝั่งทะเล ริมฝั่งแม่น้ำ ปากแม่น้ำ และที่ราบชายฝั่งถูกน้ำทะเลท่วมถึง เขาเบิด เขาถ้ำธง เขาหมอน เขาแหลมใหญ่ และภูเขาหินปูนหลายแห่งในพื้นที่กลายสภาพเป็นเกาะ
       
จากนั้นประมาณ 1,500 ปีก่อนปัจจุบัน น้ำทะเลก็ถอยกลับมาอยู่ในระดับน้ำทะเลปัจจุบัน การรุกและการถอยกลับของน้ำทะเล 2 ครั้ง ทำให้เกิดสันทรายและเกาะสันดอนปิดกั้นอ่าว ปิดกั้นน้ำทะเลบางส่วนให้อยู่ด้านหลังของเทือกสันทราย ทำให้เกิดทะเลหลงขึ้นในเวลาต่อมา
       
หลังจากนั้นบริเวณชายฝั่งที่เป็นร่องมรสุมพาดผ่านมีกระแสลมแรง หรือมีลมพายุรุนแรงพาดผ่านเป็นประจำ ประกอบกับด้านหน้าทะเลเปิดโล่ง ไม่มีเกาะต่างๆ ปิดกั้น ชายหาดมีความลาดชั้นน้อย เมื่อน้ำทะเลลดลงทำให้ชายหาดมีความกว้าง ประกอบกับขนาดเม็ดทรายมีความละเอียดมาก มีน้ำหนักเบา ซึ่งเรียกว่าทรายแป้ง เมื่อเดินจะทำให้มีเสียงเสียดสีระหว่างเม็ดทราย ทำให้มีการพัดพาเม็ดทรายโดยกระแสลม มาทับถมกันเกิดเป็นเนินทรายชายฝั่งขึ้น กลายเป็นเนินทรายดังที่เห็นในปัจจุบัน

เดินป่าศึกษาพรรณไม้
       
และใช่ว่าบางเบิดจะมีดีอยู่เพียงสันทรายเท่านั้น หลังเนินสันทรายแห่งนี้ ยังเป็นแหล่งกำเนิดป่าเนินทรายที่มหัศจรรย์ไม่แพ้กัน เพราะปกคลุมด้วยพืชพันธุ์เฉพาะถิ่นกว่า 150 ชนิด ที่หาดูได้ยากในที่อื่นๆ ของประเทศ
       
พันธุ์ไม้จากป่าพรุ ป่าชายหาด ป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง มางอกงามร่วมกันบนเนินทรายแห่งนี้ แข่งกันอวดดอกอวดผล และส่งกลิ่นหอมอบอวลตลอดปี ในที่เดียวกันนี้ยังมีป่าผสม ระบบวนเกษตรตามแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ได้ศึกษากันอีกด้วย
       
ป่าผสมแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ จังหวัดชุมพร สถานที่ 1 ใน 19 แห่ง ในโครงการ เปิดทองหลังพระ ท่องเที่ยวสืบสานโครงการพระราชดำริ ซึ่งเป็นกิจกรรมเฉลิมฉลองในวโรกาส พระบาทสมเด็จอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา
       
โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ จ.ชุมพร ตั้งอยู่ที่ หมู่ 5 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ตั้งอยู่บนเนินทราย เป็นที่ดินที่ราษฎรน้อมเกล้าถวาย และได้ออกเป็นโฉนดที่ดิน แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพื้นที่ทั้งหมด 448 ไร่ 3 งาน 17 ตรว. เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2514 เป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่เกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีพระราชประสงค์ให้สถานที่แห่งนี้ เป็นพื้นที่อนุรักษ์อันคงสภาพแวดล้อมเดิมของพื้นที่ คือ สภาพสันทรายและสภาพป่าธรรมชาติ ไว้เป็นห้องเรียนธรรมชาติ เพื่อศึกษาและพักผ่อนหย่อนใจ ทั้งยังมีพระราชประสงค์ให้เป็นสถานที่ปรับปรุงบำรุงดิน ตามความเหมาะสมกับการปลูกแตงโมพันธุ์บางเบิด ซึ่งเป็นพันธุ์แตงโมที่มีชื่อเสียงของพื้นที่นี้มานาน
       
ในโครงการพัฒนาส่วนพระองค์ จ .ชุมพร แห่งนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าศึกษาค้นคว้า ก่อนหน้านี้ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ได้จัดทำโครงการวิจัยปลูกต้นไม้โตเร็วเป็นจำนวนมาก เพื่อศึกษาผลกระทบที่ดินดังกล่าว จึงเป็นที่มาของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ที่มีระยะทางกว่า 2,338 เมตร

พรรณไม้ที่เกิดขึ้นในเส้นทางนี้ เป็นพันธุ์ไม้ป่า ไม้ดอกหอม และพืชสมุนไพร ซึ่งจะเกิดอยู่บนเนินสันทราย ใครที่คิดจะเดินป่าในเส้นทางศึกษาธรรมชาติแห่งนี้ ต้องเตรียมใจไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ว่า ต้องพบเจอกับทรายปลิวพลิ้วเข้าหน้าตา บ้างเล็ดลอดอยู่ตามรองเท้าอันเป็นเรื่องปกติ และเนื่องจากดอกไม้ พันธุ์ไม้ต่างๆ ขึ้นอยู่บนเนินทราย จึงมีขนาดเล็กลงกว่าปกติ บางชนิดสามารถพบเจอได้ที่นี่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
       
พืชพันธุ์ต่างๆ จะสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นในแต่ละฤดูกาล ระหว่างที่เดิน นอกจากจะมีป้ายบอกชื่อพันธุ์ไม้ในแต่ละต้น ยังมีป้ายบอกรายละเอียดทางเดินศึกษาธรรมชาติเป็นระยะๆ เพื่อให้ผู้ที่มาเดินนั้นได้ประโยชน์สูงสุด โดยเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติบนสันทราย ได้ปูหินทรายกลมกลืนกับพื้นที่ ทำให้เดินสำรวจธรรมชาติได้สะดวก แต่บางช่วงก็โดนทรายกลบเกือบหมด เพราะอิทธิพลแรงลมพัดทรายเม็ดมาถมเส้นทาง เส้นทางบางช่วงเป็นบันไดสูงชันหลายสิบขั้น
       
ดอกกาทุสำหรับโครงการพัฒนาส่วนพระองค์ปะทิว ชุมพร เป็นโครงการเดียว ที่สัมผัสไม้หอมได้กลิ่นทั่วในยามเช้า อาทิ ดอกพันจำ (สีขาว) เป็นไม้สกุลเดียวกับจันทน์กะพ้อ ซึ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะทยอยออกดอกเรื่อยๆ ดอกกระดูกไก่ (สีขาว) ดอกดองดึง ดอกปลาไหลเผือก ดอกช้างน้าว (สีเหลือง)ดอกเข็มหอม มักจะพบที่หมู่เกาะสิมิลัน ดอกโมกเครือ (สีขาว) ดอกเขี้ยวงู (สีขาว) ดอกแมกโนเลีย ดอกเคี่ยม ส่วนใหญ่จะออกดอกในช่วงหน้าร้อน บางชนิดในหน้าฝน และหน้าหนาว ดอกกาทุที่เจ้าหน้าที่ของโครงการมักจะอธิบายกับผู้ศึกษาธรรมชาติว่า ผลกาทุเป็นผลไม้ที่สมเด็จพระเทพฯทรงโปรดปราน

ต้นไม้พรรณไม้มากสรรพคุณ เช่น ต้นเสม็ดชุนอายุนับร้อยปี เป็นไม้ยืนต้นในพื้นที่ป่าสันทรายชายทะเล แตกกิ่งก้านสาขามากใกล้โคนต้น บางต้นแผ่กิ่งเลื้อยไปตามพื้นดินทรงพุ่มกลม ต้นแตกกิ่งก้านเยอะมาก เพื่อลดอิทธิพลกระแสลมเปลือกลำต้นสีแดงส้มเด่นชัด สรรพคุณยอดอ่อนใช้รับประทานเป็นผักสด ส่วนใบรสหอมร้อน ตำแก้เคล็ดขัดยอก ฟกบวมรมไฟนาบท้องเด็ก แก้องอืด ปวดท้อง
       
ต้นขันทองพยาบาทหรือกระดูกยายปลวก มีสรรพคุณเปลือกต้นรสเมาเบื่อ แก้ลมพิษ แก้พิษในกระดูก ฆ่าพยาธิ แก้โรคเรื้อน แก้มะเร็งคุทะราด กลากเกลื้อน โรคผิวหนังทุกชนิด เนื้อไม้แก้ลมพิษ รากแก้ลมรักษาน้ำเหลืองเสีย
       
ต้นตานซ่านต้นตานซ่านหรือว่านดอกดิน เป็นพืชกลุ่มเฟิร์นช่วยย่อยสลายอินทรียวัตถุ ให้กลับหมุนเวียนสู่พื้นดินในระบบนิเวศน์ของป่า สรรพคุณใช้ทุกส่วนของต้นเป็นยาสมุนไพร เป็นส่วนผสมหลักของยาแก้ตานขโมยทุกประเภท พบเพียงไม่กี่แห่งในไทย
       
ต้นชันนะโรงต้นเขากวาง ขึ้นตามป่าเนินสันทรายชายทะเล แก่นไม้เป็นสมุนไพรบำรุงสตรีหลังคลอด ต้นมังคุดป่าหรือสารภีป่า มีผลเป็นรูปกลมถึงรี มีจุกที่ปลายผล เป็นติ่ง ต้นเตยทะเลหรือลำเจียก สรรพคุณดอกรสหวานเย็นแก้ลม บำรุงหัวใจ แก้ไข้ รากใช้ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้เบาหวาน ขับนิ่ว แก้หนองใน หรือแม้แต่สัตว์ตัวน้อยอย่างนกแก็ก และชันนะโรง ก็ยังสามารถพอเจอได้ภายในผืนป่าบนเนินทรายแห่งนี้

ฤาทรายจะพลิ้วผ่าน
       
เพราะเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติทาง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้มอบนโยบายให้สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ศึกษาระบบบริหารจัดการแนวสันทรายบางเบิด เพื่อประกาศเป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเลและชายฝั่งมาตั้งแต่ เดือน พ.ย. 2548 เบื้องต้นกำหนดการบริหารจัดการแนวสันทรายแห่งนี้ โดยกำหนดเขตครอบคลุมเนินทราย บริเวณตั้งแต่โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ จ.ชุมพร ไปจนสุดเขตชุมชนบ้านถ้ำธง
       
ด้านหลังกำหนดเขตถัดจากเนินทรายประมาณ 30 เมตร เพื่อทำถนนสำหรับสัญจร ที่ไม่ทำลายความสมดุลของเนินทรายในอนาคต ด้านหน้าเนินทรายกำหนดเขตลงไปในทะเลประมาณ 3 ก.ม. เพื่อคุ้มครองทรัพยากรในระบบนิเวศชายฝั่ง รวมพื้นที่ควบคุมทั้งหมดประมาณ 7.4 ตร.กม.
       

รายละเอียดเกี่ยวกับแนวสันทรายบางเบิด

ที่ตั้ง : ตั้งอยู่บริเวณบ้านบางเบิด ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่รอยต่อในบ้านถ้ำธง ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร
โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ (โครงการจัดการป่าไม้บนพื้นที่สันทราย) บ้านน้ำพุ อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เปิดทำการทุกวัน เวลา 08.00-18.00
สอบถามรายละเีอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 081-9587842

 

ผู้จัดการออนไลน์ - 21 พฤษภาคม 2551

 
       
    แหล่งข้อมูล : www.manager.co.th  
   
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
 
ป่าชายเลนคลองโคน
 
คาบสมุทรสทิงพระ : วิถีโหนด-นา-เล
 
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติฯ เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า
 
อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ
 
เขาสามร้อยยอด
 
   
 
 
Copyright © 2007 - 2009 by yourhealthyguide.com All rights reserved.