|   | 
          1.  | 
          เมื่อเรากินน้ำตาลมากเกินไป โดยเฉพาะน้ำตาลเชิงเดี่ยว   (น้ำตาลทราย น้ำผึ้ง น้ำตาลในผลไม้ น้ำตาลในนม)   น้ำตาลจะเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้เลือดมีสภาวะเป็นกรดมากเกินไป   ร่างกายเกิดภาวะไม่สมดุล จึงมีการดึงแร่ธาตุจากส่วนต่างๆ   ภายในร่างกายมาแก้ไขความไม่สมดุล | 
        
        
          |   | 
           | 
          ทำให้เกิดไขมันสะสม น้ำตาลจะถูกเก็บไว้ที่ตับ ในรูปของไกลโคเจน   แต่ถ้ามีมากจนเกินไป ตับก็จะส่งไปยังกระแสเลือด และเปลี่ยนเป็นกรดไขมัน   โดยจะสะสมไว้ในส่วนของร่างกาย ที่มีการเคลื่อนไหวน้อย เช่น สะโพก ก้น ขาอ่อน   หน้าท้อง  | 
        
        
          |   | 
          3.  | 
          หากยังคงรับประทานน้ำตาลอย่างต่อเนื่อง   กรดไขมันจะสะสมไว้ที่อวัยวะภายในอื่นๆ เช่น หัวใจ ตับ และไต   ดังนั้น อวัยวะเหล่านี้จะค่อยๆ ถูกห่อหุ้มด้วยไขมันและน้ำเมือก   ร่างกายจะเริ่มผิดปกติ ความดันเลือดจะสูงขึ้น  | 
        
        
          |   | 
          4.  | 
          การรับประทานน้ำตาลมากเกินไป มีผลต่อการทำงานของสมอง   ทำให้รู้สึกง่วงหงาวหาวนอน | 
        
        
          |   | 
          5.  | 
           อาการปวดศีรษะเรื้อรัง เป็นตะคริวเวลามีรอบเดือน เป็นสิว ผื่น แผลพุพอง   ตกกระ แผลริดสีดวงทวาร ไมเกรน เบาหวาน วัณโรค โรคหัวใจ มะเร็งตับ   เหล่านี้ล้วนสัมพันธ์ กับการรับประทานน้ำตาลมากเกินไป | 
        
        
          |   | 
          6.  | 
          น้ำตาลทำให้อาการของโรคติดเชื้อที่เป็นอยุ่ ทวีความรุนแรงขึ้น   เพราะเชื้อโรคทุกชนิดใช้น้ำตาลเป็นอาหาร | 
        
        
          |   | 
          7.  | 
           น้ำตาลนอกจากจะมีผลต่อผู้ใหญ่แล้ว ยังมีผลต่อเด็กอีกด้วย   เพราะถ้าหากเด็กกินน้ำตาล ในปริมาณที่มากจนเกินไป   จะทำให้เด็กเป็นโรคกระดูกเปราะ และฟันผุได้ และอาจเป็นคนโกรธง่าย   ไม่มีสมาธิในสิ่งที่ทำอยู่ |