หน้าแรก
ข้อมูลสุขภาพ
เว็บ สุขภาพ
ร้านอาหาร เพื่อสุขภาพ
เว็บ โรงพยาบาล
ฟัน กับ การรับประทานอาหาร
ข้อมูลสุขภาพ
สุขภาพใจ สุขภาพจิต
โรคหัวใจ
โรคมะเร็ง
เบาหวาน
โคเลสเตอรอล
ไต
สุภาพสตรี
ผู้สูงอายุ
กระดูกและข้อ
ฟัน
โรคอ้วน
เฉพาะด้านอื่นๆ
สารอาหาร
ทั่วไป
 

 
หนึ่งในปัจจัยสี่ ซึ่งเป็นปัจจัยที่จำเป็นของชีวิตคนเรา ก็คือ อาหาร ร่างกายของเราต้องการ อาหารด้วยความจำเป็น เพื่อการเจริญเติบโต เพื่อการดำรงชีวิต เพื่อการทำงาน เป็นต้น อาหาร ที่ร่างกายได้รับเข้าไป ได้จากการเคี้ยวด้วยฟัน และการเคี้ยว อย่างมีประสิทธิภาพและได้ผล ย่อมจะต้องได้จากการมีฟันที่ดี สมบูรณ์และแข็งแรง

ฟัน เป็นอวัยวะที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ให้เราใช้เคี้ยวอาหาร เป็นอวัยวะที่ต้องการความเอา ใจใส่ดูแลรักษา ให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ การขาดความเอาใจใส่ ดูแลรักษาฟัน อาจก่อให้ เกิดโรคขึ้นกับฟัน นำไปสู่การสูญเสียฟัน ซึ่งจะทำให้เราขาดอวัยวะ สำหรับเคี้ยวอาหาร ร่างกายก็จะขาดอาหารที่ดี และมีประโยชน์ เกิดการเสื่อมและเสียสุขอนามัย ของอวัยวะอื่นๆ ในร่างกาย เกิดปัญหา เกิดโรคขึ้นกับระบบต่างๆ ของร่างกาย การดูแลรักษาฟันจึงจำเป็น แต่ถึงแม้จะดูแลให้ดีเพียงใดก็ตาม ฟันก็อาจเกิดโรคขึ้นได้ เนื่องจากโรคฟัน อันได้แก่ โรคฟัน ผุ และโรคเหงือกอักเสบ เกิดขึ้นเพราะความสกปรกในปากของเราเอง

หลังอาหารทุกมื้อ ไม่ว่าเราจะกินอาหารอะไรก็ตาม มักจะมีเศษอาหารเหลือค้างอยู่ใน ช่องปาก จับเป็นคราบบนผิวฟัน และซอกฟันเสมอ ซึ่งเราเรียกกันว่า คราบอาหารหรือ พลัค คราบนี้เองเป็นต้นเหตุสำคัญ ที่ทำให้เกิดโรคฟัน โดยเหตุที่ มักเกิดปฏิกิริยากับเชื้อแบคทีเรีย ในช่องปากได้ แล้วทำให้เกิดมีกรดขึ้นในน้ำลาย กรดนี้เมื่อมีปริมาณมากขึ้นๆ จนถึงระดับหนึ่ง ก็จะกัดกร่อนผิวฟัน และเนื้อฟันให้อ่อนยุ่ย เกิดเป็นรู ที่เรียกว่า โรคฟันผุ

อีกกรณีหนึ่งก็คือ คราบอาหารดังกล่าว จะมีปฏิกิริยากับแคลเซียม ในน้ำลายซึ่งร่างกาย ขับออกมาตามปกติ เกิดเป็นคราบหินปูน หรือหินน้ำลายแข็งๆ จับอยู่รอบๆ คอฟันบริเวณ ที่ติดกับขอบเหงือก คราบแข็งที่ว่านี้ จะก่อให้เกิดการระคาย กับเนื้อเยื่อขอบเหงือก เกิดเป็นแผล ทำให้มีเลือดออกซึมจากเหงือก ขณะแปรงฟัน หรือเคี้ยวอาหาร อาจมีอาการรุนแรงมาก ขึ้นจนเกิดการอักเสบ บวมแดง มีหนองเกิดขึ้นด้วย ซึ่งเป็นอาการของโรคเหงือกอักเสบ ที่รู้จักกันทั่วๆ ไปว่า โรครำมะนาด หรือ โรคปริทนต์

ทั้งโรคฟันผุและโรครำมะนาด เป็นโรคที่ทำให้เกิดปัญหา ทั้งทางด้านความเจ็บป่วย และปัญหาทาง ด้านการสูญเสีย กล่าวคือ ในด้านการเจ็บไข้ หรือร่างกายมีโรค โรคทั้งสอง จะทำให้มีอาการปวดเจ็บทรมาน เกิดมีการอักเสบ มีการติดเชื้อ อาจเกิดเฉพาะบริเวณฟัน หรือเจ็บไปทั่วทั้งปาก บางครั้งบางคราวอาจลุกลามใหญ่โต แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ กลายเป็นสาเหตุ ทำให้เกิดโรคของระบบอื่นๆ เช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคกระเพาะอาหาร เป็นต้น
 
ในด้านการสูญเสีย สิ่งที่เห็นได้ชัดเจน ก็คือ การสูญเสียฟัน เริ่มตั้งแต่พอมีฟันผุ ฟันเป็นรู ก็จะเกิดอาการเสียว อาการปวด เคี้ยวอาหารไม่ได้อย่างปกติ แม้จะบูรณะรักษาไว้ได้ แต่ก็อาจ เคี้ยวอาหารไม่ได้ดี ยิ่งถ้ามีอาการมาก และรุนแรงจนรักษาไว้ไม่ได้ จำเป็นต้องถอนฟันออก เพื่อระงับหรือขจัดอาการ ก็จะยิ่งสูญเสียฟันไปอย่าวถาวร หมดทางแก้ การเคี้ยวอาหาร ก็ยิ่งลำ บากมากยิ่งขึ้น นอกจากการสูญเสีย ความสามารถในการเคี้ยวอาหารแล้ว การสูญเสียฟันยัง มีผลทำให้สูญเสีย ความสวยงามของใบหน้า, เสียบุคลิกภาพ, และการออกเสียงในการพูด ตามมอีก ฉะนั้น จึงเห็นได้ว่า โรคฟันเป็นโรคที่สำคัญ ควรระมัดระวังดูแลฟัน อย่าให้เกิดโรค ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโรคฟันผุ หรือโรครำมะนาดก็ตาม
 
ดังได้กล่าวมาแล้วในตอนต้นว่า คราบเศษอาหาร หรือ พลัค เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคฟัน คราบพวกนี้มาจากไหน ตอบได้เลยว่า ก็มาจากอาหาร ที่เรากินกันอยู่ทุกมื้อทุกวันนี่เอง ฟันจะดีมีความแข็งแกร่ง หรือเกิดเป็นโรคฟัน ย่อมขึ้นอยู่กับอาหาร ที่เรากินกันอยู่เป็นประจำ ด้วย เราพบว่าอาหารบางชนิด จะส่งเสริมทำให้เกิดโรคฟันได้อย่างมาก แต่บางชนิดก็ไม่ทำ ให้เกิดโรคฟัน การเลือกกินอาหาร ให้ถูกทันตสุขอนามัย จะเป็นการช่วยลดปัญหาโรคฟัน ได้อย่างดี
 
อาหารที่มีความสัมพันธ์กับฟันเป็นอย่างมาก ได้แก่ อาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรท เป็น อาหารที่เรากินกันอยู่ เป็นประจำแทบทุกมื้อ ทั้งคาวและหวาน ได้แก่ อาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลทั้งหลาย ยกตัวอย่างเช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง ขนมเค็ก รวมไปถึง ของหวานอื่นๆ เช่น ทองหยิบ ฝอยทอง ชอกโกแลท ลูกกวาด เป็นต้น อาหารพวกนี้ มีลักษณะนุ่ม เคี้ยวง่าย แต่มักจะจับคลุมอยู่ตาม ซอกฟันหรือผิวฟัน เป็นคราบแฉะๆ ลื่นๆ ไม่สะดุดความรู้สึกของ ลิ้น ทำให้เราไม่รู้ตัวว่า ฟันของเราสกปรก บางชนิดก็มีลักษณะเหนียว เช่น ลูกกวาด ลูกอม ก็จะยิ่งจับผิวฟันได้แน่นขึ้นไปอีก ขนาดแปรงฟันแล้ว ยังหลุดออกไปไม่หมด
 
อาหารพวกนี้ เป็นอาหารที่เสริม ให้เกิดโรคฟันผุได้ง่าย รวมไปถึงโรคของเหงือกด้วย ถ้ากินอยู่เป็นประจำ เพราะมันมีปฏิกิริยา กับเชื้อแบคทีเรียในปาก เกิดเป็นกรดขึ้นในน้ำลาย ทำลายฟันให้เป็นรูผุ อีกทั้งยังเป็นที่จับของ ตะกอนแคลเซียมในน้ำลาย เกิดเป็นคราบหิน ปูนแข็งๆ รอบคอฟัน ก่อให้เกิดการระคาย จนขอบเหงือกเป็นแผล เกิดเป็นโรคเหงือกอักเสบ
 
อาหารพวกนี้จึงควรงด หรือลดปริมาณลง กินให้น้อยๆ เท่าที่จำเป็น เมื่อกินแล้วต้อง นึกเสมอว่ามันจับติดฟันได้ง่าย และแน่นเสียด้วย ต้องพยายามแปรงฟัน ขจัดออกให้หมดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้เป็นปัญหา ก่อให้เกิดโรคฟันและเหงือก 
    
สำหรับอาหารที่ไม่ค่อยทำให้เกิดฟันผุ และเหงือกอักเสบ ได้แก่ อาหารพวก โปรตีน ไขมัน ผักและผลไม้ อาหารโปรตีน ก็คือ อาหารพวก เนื้อ หมู เป็ด ไก่ ฯ อาหารพวกนี้ ขณะกิน ต้องเคี้ยวช้าๆ ต้องออกแรงเคี้ยว ใช้ฟันบดให้แหลก จึงจะกลืนได้ ทำให้ก้อนอาหารต้องถูก บด ไปกับผิวฟัน จึงเท่ากับเป็น การขัดผิวฟันไปด้วยในตัว ผักและผลไม้ เป็นอาหารทีมีใย มีกาก ขณะที่เคี้ยวกิน ใยของมันจะถูขัดไปกับผิวฟัน ช่วยให้ผิวฟันสะอาด
 
บางครั้งบางที อาหารเหล่านี้ อาจตกลงไปติดอยู่ตามซอกฟันได้บ้าง แต่กากจะติดเป็น ก้อนโต และมีความแข็ง สะดุดความรู้สึกของลิ้น ทำให้เกิดความรำคาญ ต้องหาทางเขี่ยออก ส่วนผักและผลไม้ แม้จะมีความหวานอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ติดเป็นคราบบนผิวฟัน จึงไม่ก่อให้เกิด โรคของฟันและเงือก
 
อาหารแข็ง มักจะไม่ค่อยทำให้เกิดโรคฟัน เพราะขณะเคี้ยวมันจะถูไปกับฟัน และไม่ค่อย จับฟันเป็นครา บอาหารพวกนี้ ได้แก่ ผักและผลไม้ เช่น ฝรั่ง มะม่วงดิบ เป็นต้น การเคี้ยว อาหารแข็งเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ไม่ได้หมายความถึงของแข็ง เช่น กระดูก ก้ามปู ฯ ซึ่งถ้าเคี้ยว อาหารพวกนี้อาจเกิดอันตราย ทำให้ฟันแตกบิ่นได้ง่าย ส่วนอาหารเหลว ซึ่งมักจะเป็นอาหาร จำพวกคาร์โบไฮเดรทนั่นเอง เช่น น้ำนม ขนมหวาน อาหารพวกนี้จับผิวฟันได้ง่าย และไม่ ค่อยรู้สึกตัว ทำให้เกิดโรคของฟันและเหงือกได้ง่าย
 
โดยทั่วๆ ไป อุณหภูมิของอาหารจะไม่มีผล ทำให้เกิดโรคของฟันและเหงือก แต่ถ้าเป็น อาหารที่ร้อนหรือเย็นจัดเกินไป ก็อาจกระตุ้น ทำให้เกิดมีอาการเสียวหรือปวดฟันได้ ทางที่ดีจะกินอะไร ก็อย่าให้ร้อนจัด หรือเย็นจัดเกินไปจะดีที่สุด

 
•
ของหวาน ก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับ โรคฟันและเหงือกได้ง่าย เพราะเป็นคาร์โบไฮเดรท เสียส่วนใหญ่ ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนต้น 
 
•
ของเค็ม ไม่มีปัญหาอะไรต่อฟัน 
 
•
ของเปรี้ยว มักจะทำให้เสียวฟัน ได้แก่ผลไม้ดิบๆ เช่น มะม่วง มะปราง ฯ เนื่องจาก มีกรด ขณะเคี้ยว กรดจะจับอยู่บนผิวฟัน และซึมเข้าไปในเนื้อฟันได้บ้าง จึงทำให้เสียวฟัน แต่ก็ไม่ใช่ความผิดปกติ ที่จะต้องแก้ไขแต่อย่างใด เมี่อหยุดกินสักระยะ สภาพการณ์ที่ เกิดขึ้น ก็จะหายไปได้เอง

ที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ คงจะทำให้ท่านเข้าใจถึง ความสัมพันธ์ระหว่าง ฟันกับอาหาร ที่รับประทานได้ดีและชัดเจนยิ่งขึ้น ความเข้าใจในเรื่องนี้ คงจะช่วยให้ท่านสามารถเลือกรับประทาน อาหารที่ไม่ส่งเสริมให้เกิดโรคฟัน และเหงือกได้ถูกต้อง และคงจะรู้ว่าอาหารอะไร ที่จับติดผิวฟันได้ง่าย ส่งเสริมให้ฟัน และเหงือกเกิดเป็นโรค เพื่อที่ท่านจะได้แปรงฟันขจัดออก แม้ว่าท่านจะต้องรับประทาน อาหารจำพวกนั้น
 

ทพ. สมนึก วัฒนสุนทร

 
       
    แหล่งข้อมูล : Siriraj E-Public Library - www.si.mahidol.ac.th  
   
ข้อมูลสุขภาพที่เกี่ยวข้อง
 
ขจัดขี้ฟันให้ถูกวิธี
 
การดูแลรักษา สุขภาพฟัน และเหงือก
 
ลิ้นสะอาด - ช่วยลดกลิ่นปาก
 
กินอาหารเพื่อสุขภาพฟัน
 
ฟัน กับ การรับประทานอาหาร
 
   
 
 
Copyright © 2007 - 2009 by yourhealthyguide.com All rights reserved.