หน้าแรก
ข้อมูลสุขภาพ
เว็บ สุขภาพ
ร้านอาหาร เพื่อสุขภาพ
เว็บ โรงพยาบาล
โรคเบาหวาน...ไม่หวานอย่างที่คิด
ข้อมูลสุขภาพ
สุขภาพใจ สุขภาพจิต
โรคหัวใจ
โรคมะเร็ง
เบาหวาน
โคเลสเตอรอล
ไต
สุภาพสตรี
ผู้สูงอายุ
กระดูกและข้อ
ฟัน
โรคอ้วน
เฉพาะด้านอื่นๆ
สารอาหาร
ทั่วไป
 


โรคเบาหวาน เป็นโรคที่ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักกันพอควร แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังไม่ทราบ ความสำคัญของการรักษาโรคนี้นัก แพทย์เองก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการรักษา ผู้ป่วยเบาหวานเป็นอย่างดี แพทย์หลายๆ ท่านรักษาเบาหวาน เฉพาะเพียงลดระดับ น้ำตาลในเลือดเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว โรคเบาหวาน ไม่ใช่แค่ระดับน้ำตาลในเลือดสูง เท่านั้น แต่เป็นโรคร้าย ที่หากไม่ได้รับดูแลอย่างดีแล้ว จะเกิดผลเสียตามมามากมาย ..... หมอโรคหัวใจ และ หมอโรคไต ทราบดี เพราะผู้ป่วยโรคหัวใจ และ ไตวายเรื้อรังส่วนใหญ่ เป็นเบาหวาน

โรคเบาหวานเป็นความผิดปกติ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลในร่างกาย ไปใช้ได้อย่างเต็มที่ สาเหตุเนื่องจากขาดฮอร์โมนอินซูลิน หรือ ไม่ขาดฮอร์โมน แต่ร่างกายไม่ตอบสนองต่อ ฮอร์โมนตัวนี้ ผลที่ตามมาคือระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ปัจจุบัน หากระดับน้ำตาล ในเลือดที่เจาะหลังงดอาหาร 6 ชั่วโมงแล้ว ยังสูงกว่า 126 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร เราก็เรียกได้ว่าเป็น โรคเบาหวาน ได้แล้ว 

ระดับน้ำตาลที่สูงนี้ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ที่สำคัญ คือ เป็นตัวการเร่งให้เกิดการเสื่อม ของหลอดเลือดแดงทั่วร่างกาย ทั้งหลอดเลือดแดงที่เลี้ยง สมอง หัวใจ ตา ไต แขน-ขา รวมทั้ง หลอดเลือดแดงเล็กๆ ที่เลี้ยงปลายประสาทอีกด้วย ทำให้เกิดการตีบตันของหลอดเลือดแดงเหล่านี้ ดังนั้นจะเห็นว่า โรคเบาหวาน เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อ โรคทางสมอง อัมพาต โรคระบบประสาท โรคหัวใจ โรคไต โรคตา แม้กระทั่งโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือ ED ด้วย

หลักสำคัญในการรักษาผู้ป่วยเบาหวาน (ที่ผู้ป่วยควรทราบ)

 
•
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติให้มากที่สุดตลอดเวลา การที่จะ ทำเช่นนั้นได้ ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างมากจากผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย (ประเภทหวังดี ซื้อของมาให้รับประทาน หรือ ให้คำแนะนำผิดๆ) โดยการควบคุมอาหารอย่างเคร่ง ครัด รับประทานยาตามสั่ง ออกกำลังกายตามสมควร ลดน้ำหนัก  หากยาไม่ได้ผลดีก็ จำเป็นต้องฉีดอินซูลิน
 
•
หากมีความดันโลหิตสูงก็จำเป็นที่จะต้องลดความดันโลหิตให้น้อยกว่า หรือ ใกล้เคียง 130/80 มม.ปรอท ทั้งนี้ต้องไม่มีผลแทรกซ้อนจากยาลดความดันโลหิตด้วย จะสามารถป้องกัน หรือ ชลอภาวะไตวายได้
 
•
ลดไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดลงมากๆ โดยใช้ค่า LDL-Cholesterol เป็นเกณฑ์ ให้ LDL-C น้อยกว่า 100 มก./ดล. เทียบเท่าผู้ที่มีโรคหัวใจอยู่ เนื่องจากผู้ป่วย เบาหวานแทบทุกราย มีการตีบตันของหลอดเลือดหัวใจซ่อนอยู่ด้วย การลดระดับ ไขมันในเลือดลงมากๆ (Cholesterol) จะช่วยลดปัญหาแทรกซ้อนทางหัวใจลง
 
•
แนะนำให้ผู้ป่วยพบจักษุแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อป้องกันตาบอดจากเบาหวานขึ้นตา จอประสาทตาเสื่อม แนะนำให้ผู้ป่วยดูแลตนเองที่บ้าน อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง การดูแลเท้า ผิวหนัง (โอกาสเกิดแผลที่เท้า และ ทำให้ต้องตัดเท้าพบได้บ่อยๆ)

จะเห็นว่า การรักษาโรคเบาหวาน ไม่ใช่แค่การไปเจาะเลือด ดูน้ำตาลในเลือด แล้วจัดยาเฉยๆ แต่การรักษาเบาหวานที่ได้มาตรฐาน จะเป็นการดูแลผู้ป่วยทุกระบบ โดยหวังว่าการดูแลอย่างดี จะช่วยป้องกันผลแทรกซ้อนที่ร้ายแรงจากเบาหวานได้ เช่น อัมพาต ไตวาย ตาบอด กล้ามเนื้อหัวใจตาย เป็นต้น การรักษาเบาหวานให้ดี จึงไม่ใช่เรื่อง "หมูๆ" หรือ "หวานๆ"  อย่างที่คิด

ข้อมูลล่าสุดจากการสำรวจสถานะสุขภาพประชากรไทย พบว่า ร้อยละ 52 ของผู้ป่วยเบาหวาน ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นโรคเบาหวานมาก่อน, ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ความชุกของโรคเบาหวานเพิ่มมากขึ้น อย่างน้อย 2 เท่า, ปัจจัยที่ เกี่ยวข้องกับการเป็นโรคเบาหวาน คือ ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง และ อายุ


นพ.ระพีพล กุญชร ณ อยุธยา อายุรแพทย์โรคหัวใจ

 
       
    แหล่งข้อมูล : www.thaiheartweb.com  
   
ข้อมูลสุขภาพที่เกี่ยวข้อง
 
เบาหวาน โรคคุ้นหูที่ไม่ธรรมดา
 
เบาหวาน ... น่ารู้
 
รู้ทันเบาหวาน
 
รู้ลึก รู้จริง เรื่อง อินซูลิน
 
โรคเบาหวาน กับ ภาวะไตวาย
 
   
 
 
Copyright © 2007 - 2009 by yourhealthyguide.com All rights reserved.