หน้าแรก
ข้อมูลสุขภาพ
เว็บ สุขภาพ
ร้านอาหาร เพื่อสุขภาพ
เว็บ โรงพยาบาล
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบางปู
ท่องเที่ยว วันหยุด
ท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์
ท่องเที่ยว เชิงนิเวศ
ท่องเที่ยว ข้อมูล อุทยานแห่งชาติ
 


หนึ่งวันมหัศจรรย์ กับ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบางปู 

เพื่อนๆ เคยมีวันมหัศจรรย์หรือยังคะ ถ้ายังไม่เคยมี ตามเรามาที่นี่ค่ะ ที่ "ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบางปู" จังหวัดสมุทรปราการ  รับรองว่าถึงจะไม่ใช่วัยซน (คนมหัศจรรย์) ที่นี่เค้าก็เปิดประตูต้อนรับทุกท่านค่ะ 

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบางปู ตั้งอยู่ภายในสถานพักตากอากาศบางปู เกิดจากความร่วมมือระหว่างกองทัพบก WWF ประเทศไทย และบริษัทไทยประกันชีวิต จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสพระชนม์มายุครบ 72 พรรษา โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการ คือ เพื่อให้บริการการศึกษาด้านธรรมชาติวิทยาให้แก่เด็กนักเรียนอายุ 6 - 18 ปี ที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ตอนใต้และในเขตจังหวัดสมุทรปราการ

และเพื่อให้เป็นต้นแบบในการพัฒนาศูนย์ศึกษาธรรมชาติแห่งอื่นๆ ในเขตเมือง และพื้นที่ชายฝั่งในแถบชานเมืองกรุงเทพฯ ท่านที่อายุเกิน 18 ปีไม่ต้องตกใจและไม่ต้องทำหน้าเด็กตอนเข้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติบางปูนะคะ เขาเปิดให้ประชาชนที่สนใจทั่วไปเข้าชมด้วยค่ะ ที่สำคัญไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย 

สถานตากอากาศบางปูมีพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมด 639 ไร่ ประกอบด้วย 3 ส่วน 

ส่วนที่ 1   คือส่วนหลักนับจากแนวถนนหลักที่เข้าสู่ศาลาสุขใจที่อยู่กลางทะเล โดยมีสะพานจากชายฝั่งยาว 500 เมตรเข้าไปที่ตัวศาลา และมีร้านอาหารแสนอร่อยค่ะ
ส่วนที่ 2   พื้นที่ที่ครอบคลุม 301 ไร่บริเวณทางฝั่งตะวันตก เป็นที่ตั้งของอาคารเรือนพักผ่อนกว่า 20 หลัง 
ส่วนที่ 3   พื้นที่อีก 338 ไร่ทางฝั่งตะวันออกที่ยังคงเป็นพื้นที่โล่งกว้างและเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด มีร่องรอยของนากุ้งเก่าที่เคยทำมาในอดีต  ซึ่งจุดนี้แหละค่ะที่จะเป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาติที่สมบูรณ์ได้ แห่งหนึ่งของเมืองไทย 

ในพื้นที่ด้านตะวันออกของสะพานสุขตา ตั้งแต่แนวป่าแสมริมถนนสุขุมวิท ไล่ลงมาถึงแนวเขื่อนกั้นน้ำทะเล  เรื่อยไปถึงพื้นที่หาดโคลนกว้างใหญ่กินบริเวณไปถึงตัวอาคารสุขใจ สภาพธรรมชาติโดยรวมจะเป็นป่าแสมที่กำลังฟื้นตัว และบึงใหญ่ที่เคยเป็นบ่อเลี้ยงกุ้ง  ทางศูนย์ศึกษาธรรมชาติบางปูได้จัดทำเส้นทางเดินเท้า ศึกษาธรรมชาติที่สามารถเดินชมได้ด้วยตัวเอง โดยเส้นทางเดินเท้านี้จะผ่านระบบนิเวศแบบพื้นที่ชุ่มน้ำ  ผ่านดงต้นแสมอันเป็นจุดเกาะพักของนกนานาชนิด เส้นทางสายนี้จะเป็นทางเดินวงรอบระยะทางประมาณ 1,400 เมตร ผ่านถิ่นที่อยู่อาศัยของนกหลากชนิดพันธุ์ และจะมีหอชมเรือนยอดแสมที่สามารถจะมองเห็น พื้นที่ของศูนย์ศึกษาธรรมชาติในมุมสูงได้เช่นกัน 

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบางปู จะมีหอดูนกขนาดเล็กที่การออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ สำหรับให้เด็กๆ  และเยาวชนตลอดจนครอบครัวที่สนใจจะเริ่มต้นดูนกเข้าเยี่ยมชม ในหอนี้จะช่วยให้การสังเกตพฤติกรรมของนกในธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด ทั้งยังมีอุปกรณ์ดูนก ได้แก่ กล้องสองตา กล้องเทเลสโคป และเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ ออกนำเดินชมธรรมชาติและดูนก อีกด้วย 

เนื่องด้วยที่บางปูเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง มีต้นไม้หลากหลายชนิด และที่สำคัญยังเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของนกนานาพันธุ์ และสัตว์ที่อาศัยตามป่าชายเลนอีกหลายชนิด ดังนั้น เมื่อหน้าหนาวมาถึง บางปูจะมีแขกจากแดนไกลมาเยี่ยมมาเยือนมากมายเลยค่ะ  เพราะที่นี่เป็นแหล่งอาหารที่สมบูรณ์มากๆ ของนกหลากหลายพันธุ์ จึงมีนกน้ำแวะมาเติมพลังก่อนจะเดินทางต่อไปยังที่อื่นถึงกว่าปีละ 10,000 - 20,000 ตัว (เช่น นกสติ๊นท์คอแดงที่อพยพมาจากเขตทุนดรา แวะพักระหว่างทางก่อนจะเดินทางไปยังอินโดนีเซียและออสเตรเลีย)  รวมทั้งนกนางนวลที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ก็จะบินมาอีกราวๆ 5,000 -10,000 ตัวต่อปี นกที่นี่มีมากมายประมาณ 200 ชนิดเลยทีเดียว เป็นนกอพยพกว่า 126 ชนิด  และนกประจำถิ่นประมาณ 66 ชนิด ซึ่งในจำนวนนี้จะพบนกที่พบเห็นได้ยากที่อพยพมาจากทางตอนเหนือของทวีปด้วยเช่นกัน อาทิ นกหัวโตหลังจุดสีทอง  นกจมูกหลอดลาย นกกาน้ำปากยาว นกหัวโตสีเทา นกซ่อม-ทะเลอกแดง นกทะเลขาเขียว นกชายเลนปากโค้ง เป็นต้น 

พูดถึงเรื่องนกแล้วก็อดที่จะเล่าถึงกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างหนึ่งไม่ได้ค่ะ (ถ้าพลาดไปเสียใจแย่เลย) ก็คือการให้อาหารนกนางนวล อาหารโปรดของเจ้านกนางนวลที่นี่ก็คือ ...กากหมูค่ะ แม้ว่าโดยปกตินกนางนวลธรรมดาเหล่านี้ (เป็นชนิดที่พบได้มากที่สุดที่บางปู) จะกินปลา และเศษอาหารในทะเล  แต่ก็ไม่ปฎิเสธกากหมูที่นักท่องเที่ยวจะหยิบยื่นให้ โดยนางนวลบางตัวจะมีความสามารถพิเศษ แสดงกายกรรมเหิรกลางหาว บินงับกากหมูของคุณได้เลยค่ะ  ลองจินตนาการถึงยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า แล้วมีภาพแห่งมิตรภาพระหว่างคนกับนก โดยมีกากหมูเป็นสื่อกลาง

บรรยากาศยามเย็นของที่นี่ก็สวยทีเดียวค่ะ ใครเป็นช่างภาพจะมาลองวัดฝีมือที่นี่ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพนกโฉบเหยื่อ (กากหมู) หรือภาพพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า หรือท่านที่ชอบออกกำลังกายจะมา จ็อกกิ้งที่นี่ก็ได้เช่นกัน อ้อ...ที่สำคัญอย่าลืมแวะไปทานอาหารที่ร้านทหารตรงสุดปลายสะพานสุขตาชื่ออาคารศาลาสุขใจ  อาหารอร่อยราคาก็ไม่แพงค่ะ 

ไม่ว่าคุณจะมากับครอบครัว เพื่อน หรือแฟนก็ตามแต่ แสงอาทิตย์ยามเย็นที่นี่จะให้ความรู้สึกโรแมนติกมากค่ะ  "ภาพพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าจะติดตราตรึงใจคุณไปอีกนาน" รวมทั้งอากาศก็ดี เหมือนได้มาฟอกปอดรับอากาศบริสุทธิ์ ไม่ต้องไปไกลถึงสวิตเซอร์แลนด์หรอกค่ะ ของดีมีที่นี่ใกล้กรุงเทพฯ นิดเดียว

แต่มีเรื่องหนึ่งที่เราต้องตระหนักไว้ด้วยค่ะ นั่นคือเรื่องของป่าชายเลน และพื้นที่ธรรมชาติชายฝั่งซึ่งเป็นถิ่นอาศัยตามธรรมชาติของสัตว์นานาชนิด  ปัจจุบันนี้ป่าชายเลน และพื้นที่ชายฝั่งได้ถูกทำลายในระดับที่รวดเร็วจนอยู่ในภาวะวิกฤต ตัวเลขการถูกทำลายรวดเร็วกว่าป่าฝนเขตร้อนถึง 35% ค่ะ  เนื่องจากคนส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับป่าบนแผ่นดินมากกว่าจะสนใจป่าชายน้ำที่อยู่ใกล้ๆ เมือง ทั้งๆ ที่ป่าประเภทนี้เองที่จะเป็นแนวกำบังช่วยลดความรุนแรงของพายุ คลื่นสึนามิ ช่วยกรองมลพิษให้กับเมืองใหญ่ อีกทั้งยังเป็นแหล่งอาหารของนกและแหล่งอนุบาลของสัตว์น้ำวัยอ่อนด้วยค่ะ 

ดังนั้น การที่เราจะอนุรักษ์ป่าชายเลนและระบบนิเวศชายฝั่งนั้น เราจะต้องทำความรู้จักกับระบบนิเวศนั้นๆ เสียก่อน ซึ่งบางปูนี่ล่ะค่ะเหมาะที่จะเป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนและระบบนิเวศชายฝั่งซึ่งเป็นระบบนิเวศที่ใกล้ตัวเรามากแห่งหนึ่ง และบางปูแห่งนี้ยังคงความสมบูรณ์อยู่มาก ถึงแม้ว่าจะอยู่ไม่ห่างจากนิคมอุตสาหกรรมหรือความเจริญในเมืองเท่าใดนัก แต่บางปูก็ยังคงเสน่ห์แห่งธรรมชาติอยู่ดังเดิม รอก็เพียงแต่คนรุ่นใหม่ที่จะมาเข้าร่วมศึกษาธรรมชาติ และสานต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อให้บางปูยังคงเป็นบางปูที่สวยงามตลอดไป 

 
       
    แหล่งข้อมูล : www.sanook.com  
   
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
 
ดอนหอยหลอด
 
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า
 
สวนสัตว์ดุสิต
 
สวนสัตว์เขาเขียว
 
   
 
 
Copyright © 2007 - 2009 by yourhealthyguide.com All rights reserved.