หน้าแรก
ข้อมูลสุขภาพ
เว็บ สุขภาพ
ร้านอาหาร เพื่อสุขภาพ
เว็บ โรงพยาบาล
สารพัดสูตรบำบัด อาการปวดประจำเดือน
ข้อมูลสุขภาพ
สุขภาพใจ สุขภาพจิต
โรคหัวใจ
โรคมะเร็ง
เบาหวาน
โคเลสเตอรอล
ไต
สุภาพสตรี
ผู้สูงอายุ
กระดูกและข้อ
ฟัน
โรคอ้วน
เฉพาะด้านอื่นๆ
สารอาหาร
ทั่วไป
 


อาการปวดประจำเดือน มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนประจำเดือน และมีการหลั่งสารโพรสตาแกลนดินออกมามากผิดปกติ ซึ่งสารนี้ทำหน้าที่ช่วยปิดรูหลอดเลือดที่รั่ว จึงทำให้มดลูกมีการบีบเกร็งตัว มักพบในเด็กสาว หรือผู้หญิงที่อายุยังน้อย จะมีอาการปวดท้องน้อยอย่างรุนแรงในระยะแรกที่ประจำเดือนมา อาจมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ ท้องเดิน เหงื่อออก มือเท้าเย็นร่วมด้วย บางรายอาจปวดมากจนเหมือนไม่สบาย หรือเป็นลม อาการปวดนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 วัน

ส่วนอาการปวดอย่างรุนแรง อาจเกิดจากโรคเยื่อบุมดลูกเกิดต่างที่ เป็นถุงน้ำที่รังไข่ การอักเสบในอุ้งเชิงกราน เนื้องอกไฟบรอยด์ หรือการใส่ห่วงคุมกำเนิด ซึ่งในกรณีหลังถ้าเคยตั้งครรภ์มาแล้ว ปากมดลูกจะหลวมอาการปวดจะหายไป

ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต

เชื่อไหมคะว่า อาการปวดประจำเดือนเกิดจากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะวิถีการใช้ชีวิต และการกินอยู่ผิดๆ เรามีสารพัดวิธีแก้อาการปวดประจำเดือนมาแนะนำ ซึ่งสามารถทำได้โดยกินอาหารธรรมชาติ ที่มีเส้นใยสูง เช่น ผัก ผลไม้สด เพื่อป้องกันอาการท้องผูกระหว่างมีประจำเดือน นอกจากนี้ อาการปวดประจำเดือน อาจมีสาเหตุมาจากความเครียด ซึ่งสามารถดูแลตัวเองด้วยการฝึกสมาธิและโยคะ และเทคนิคในการผ่อนคลายอื่นๆ

จัดระบบสมดุลร่างกายด้วยชีวจิต

เรื่องของอาการปวด ประจำเดือนเป็นเรื่องของมดลูกโดยตรง แต่บางครั้งก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ซึ่งไม่เกี่ยวกับมดลูกได้เหมือนกัน เช่น ท้องผูกเป็นประจำ โลหิตจาง กินอาหารผิด เครียด เป็นต้น ดังนั้นก่อนอื่นต้องจัดระบบร่างกายให้สมดุล ด้วยวิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ

 
1.
กินอาหารตามสูตรชีวจิต
 
•
สำหรับคนผอมและเลือดน้อย ใช้สูตรนี้ค่ะ กินอาหารในแต่ละมื้อดังนี้ คาร์โบไฮเดรต 40 เปอร์เซ็นต์ โปรตีน (อาหารทะเล) 25 เปอร์เซ็นต์ ผักต่างๆ 25 เปอร์เซ็นต์ เบ็ดเตล็ด 10 เปอร์เซ็นต์
   
•
สูตรสำหรับคนเจ้าเนื้อ ใช้สูตรทั่วไปของชีวจิตคือ คาร์โบไฮเดรต 50 เปอร์เซ็นต์ ผัก 25 เปอร์เซ็นต์ โปรตีน 15 เปอร์เซ็นต์ และเบ็ดเตล็ด 10 เปอร์เซ็นต์
 
2.
กินวิตามินกลุ่มแอนติออกซิแดนท์ ได้แก่ วิตามินเอ ซี ดี อี กินรวมกับวิตามินบี 2 ปริมาณ 200 มิลลิกรัม วิตามินบี 6 ปริมาณ 100 มิลลิกรัม กรดโฟลิก 0.4 มิลลิกรัม (400 ไมโครกรัม) และธาตุเหล็ก 30 มิลลิกรัม
 
3.
ออกกำลังกาย ด้วยวิธีใดก็ได้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเร่งให้ร่างกายผลิตสารอนุพันธุ์ฝิ่นธรรมชาติ ซึ่งมีฤทธิ์บรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือนได้

สมุนไพรไทยไล่อาการปวด

หากอาการปวดยังไม่ทุเลา อย่าลืมสมุนไพรที่ปลูกไว้ในสวนครัวหลังบ้านเชียวค่ะ

 
•
ขี้เหล็กและแก่นฝางสน ใช้แก่นขี้เหล็ก และแก่นฝางสนอย่างละ 75 กรัม ใส่หม้อเติมน้ำให้พอท่วมยา น้ำ 3 ส่วน ต้มเหลือ 1 ส่วน ดื่มก่อนอาหารเช้าและเย็น ครั้งละ 1 ถ้วยชา
 
•
ลูกยอบ้าน นำลูกยอบ้านอายุไม่แก่ไม่อ่อนมาทำส้มตำกินสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง
 
•
หอมแดง ใช้หัวหอมสด 15-30 กรัม ต้มกับน้ำสะอาดพอประมาณ ดื่มเป็นยา
 
•
รวมสมุนไพรไทย นำพริกไทยล่อน 7 เม็ด ดีปลี 7 เม็ด กระเทียม 7 กลีบ ขิงสด 7 ชิ้น ไพลสด 7 แว่น ว่านชักมดลูก 7 แว่นหนาๆ มาตำรวมกัน คั้นเอาแต่น้ำ (หรือจะเคี้ยวทั้งเนื้อก็ได้) ดื่มวันละ 2 ครั้งเช้า-เย็น ไม่ควรเกิน 3 วัน อาการปวดจะค่อยๆ หายไปเอง นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณช่วยให้กะบังลม หรือมดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น

ท่าบริหารร่างคลายปวดประจำเดือน

การออกกำลังกาย นอกจากจะทำรู้สึกกระปรี้กระเปร่า เพราะร่างกายได้หลั่งสารแอนโดร์ฟินแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างร่างกายให้มีภูมิต้านทานโรคได้ด้วย โดยเฉพาะท่าที่เรานำมาเสนอนี้ สามารถบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้ชะงัด อย่าเชื่อจนกว่าจะลองทำค่ะ

 
•
วิธีที่ 1 ยืนหันหน้าเข้าข้างฝา เท้าสองข้างราบติดพื้น มือทั้งสองข้างยันฝา แล้วแอ่นบั้นเอวไปข้างหน้าจนชิด หรือเกือบชิดฝา ทำวันละ 20 ครั้ง เช้า-เย็น
 
•
วิธีที่ 2 ควงบั้นเอวจากซ้ายไปขวา แล้วสลับควงจากขวาไปซ้าย ข้างละ 10 ครั้ง เช้า-เย็น

 

 

นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 157

 
       
    แหล่งข้อมูล : www.cheewajit.com  
   
ข้อมูลสุขภาพที่เกี่ยวข้อง
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
   
 
 
Copyright © 2007 - 2009 by yourhealthyguide.com All rights reserved.